ที่มาภาพ จาก @BIGONEGIRLS
แปลไทยบทสัมภาษณ์ มุไคจิ มิอง (มี่อง) กัปตันทีม A ใหม่, ทากุจิ มานากะ กัปตันทีม K ใหม่, อาซาอิ นานามิ (นามิน) กัปตันทีม B ใหม่, คุราโน่ นารุมิ (นารุ) กัปตันทีม 4 ใหม่จากนิตยสาร BIG ONE GIRLS ฉบับที่วางจำหน่ายวันที่ 31 มกราคม 2022 ซึ่งบทสัมภาษณ์นี้กัปตันคนใหม่ทั้งสี่ได้ให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อเดือนมกราคม
การประกาศสลับทีมในรอบ 4 ปี แล้วก็เปลี่ยนตัวกัปตัน ขอถามหน่อยว่าตอนประกาศรู้สึกอย่างไรกัน เริ่มจากมานากะจัง
มานากะ ฉันได้แต่ตกใจล่ะค่ะ ไม่คิดว่าตัวเองจะมาเป็นกัปตันเลย แล้วตอนที่ได้ฟังก็รู้สึกว่า “เอ๊ะ” ซะมากกว่าจะมาดีใจหรือมาคิดว่าแย่แล้ว แต่ว่าบนเวทีที่ประกาศ พวกรุ่นพี่บอกว่า “คิดว่าได้เป็นอยู่แล้ว” ซึ่งทำให้รู้สึกดีใจอยู่หน่อยๆ เหมือนกัน เป็นอารมณ์ความรู้สึกหลายอย่างที่ผสมปนเปกันไปค่ะ
ที่ว่า “คิดว่าได้เป็นอยู่แล้ว” นี่คือ?
มานากะ เหมือน โอยะ ชิซึกะซังที่จบการศึกษาไปเมื่อปลายปีที่แล้ว จะเห็นจากตอนมีประชุมรวมว่า ฉันออกความเห็นแม้ในส่วนที่ปกติคนจะไม่พูดกันแล้วมองว่า “เด็กคนนี้สุดยอด” น่ะค่ะ พอได้ยินแล้วก็ดีใจขึ้นมาค่ะ
งั้นนานามิจัง
นามิน ฉันเองก็ไม่คิดว่าตัวเองจะได้เป็นเลย แถมนับจากรุ่นก็เป็นน้องเล็ก รุ่นน้องก็มีแค่ดราฟท์รุ่นที่ 3 เลยตกใจจริงๆ ค่ะ แต่ก็คิดมาตลอดว่า “อยากทำให้ AKB48 ดีขึ้น อยากเป็นกำลังให้กับวง” ก็เลยเป็นความรู้สึกในแง่บวกว่า “สู้ตาย!” ค่ะ ช่วงนี้มีโอกาสให้รวมตัวแบบนี้กัน 4 คนเพิ่มขึ้นด้วย เลยรู้สึกว่าเริ่มเป็นกัปตันขึ้นมาเล็กน้อยแล้วค่ะ
นารุมิจังล่ะ?
นารุ รู้สึกว่า “ฉันเหรอ…” น่ะค่ะ ตกใจสองรอบตรงที่ “ได้เป็นกัปตัน” กับ “ไปอยู่ทีม 4” ค่ะ เพราะช่วงนี้ถูกแฟนๆ พูดว่า “มีเลือดสีเขียว (สีของทีม K) ไหลเวียน” เยอะขึ้น ก็เลยเป็นอารมณ์ที่แบบ “ฉันทีม 4 งั้นเหรอ” แต่ก็ดีใจที่ได้รับมอบหมายมา เลยรู้สึกในแง่บวกขึ้นมาทันทีค่ะ คิดว่าอยากจะทำให้เป็นทีมที่เปลี่ยนภาพลักษณ์เดิมๆ จากที่ผ่านมาได้ค่ะ
มิองจัง
มี่อง เรื่องการสลับทีมเนี่ย ก็รู้สึกอยู่ว่า “น่าจะใกล้ถึงเวลาแล้ว” อย่างตัวฉันเป็นโซคังโตคุ แล้วที่ผ่านมาโซคังโตคุทุกคนอยู่ทีม A กันหมด ในแง่สภาพแวดล้อมและการเปลี่ยนทีมแล้ว รู้สึกว่า “ฉันเปลี่ยนแปลงน้อยที่สุดแล้ว” เพราะงั้นก็เลยตกใจจริงๆ ที่ได้รับเลือกให้เป็นกัปตันอย่างคาดไม่ถึงค่ะ
แต่คิดว่าสักวันจะได้เป็นกัปตันนะ อย่างโซคังโตคุในอดีต (ทาคาฮาชิ มินามิ, โยโกยามะ ยุย) ก็เป็นแบบนั้นนี่นา
มี่อง อยากลองเป็นมาตลอด แต่เพราะเป็นโซคังโตคุมาประมาณ 3 ปีแล้ว เลยคิดว่า “ป่านนี้คงไม่ได้เป็นกัปตันแล้วแหละ” อีกทั้งการเป็นกัปตันเนี่ยก็ถือว่าเป็นโอกาสครั้งใหญ่น่าดูด้วยนี่คะ เลยไม่คิดว่าจะได้รับโอกาสนั้นค่ะ…..ดีใจเลยค่ะ ทั้งตกใจ ทั้งดีใจ แล้วก็รู้สึกผิดหน่อยๆ ด้วย
ทำไมถึงรู้สึกผิดล่ะ?
มี่อง มีกัปตันเด็กลงถึงขนาดนี้ รู้สึกว่ามีแค่ฉันที่ช้ากว่าเค้าไปเป็นรอบ (หัวเราะ) คิดว่าถ้าให้เมมเบอร์เด็กๆ เป็นกัปตันทีม A และได้รับโอกาสจะดีกว่านี้ แต่ก็เปลี่ยนเป็นความรู้สึกในแง่บวกขึ้นมาว่า ในเมื่อได้รับมอบหมายหน้าที่นี้มาทั้งที ก็อยากจะตั้งอกตั้งใจกับมันค่ะ
แล้วในมุมโซคังโตคุแล้ว มองการรับตำแหน่งของกัปตันทั้งสามเป็นอย่างไร
มี่อง มานากะกับนามินเนี่ย ในรุ่น 16 มีภาพลักษณ์ที่เป็นคนคอยนำอยู่แล้ว ขนาดเมมเบอร์คนอื่นนอกจากฉันเองก็ยังมองว่า “มีแววเป็น” ส่วนมานากะที่อยู่ทีม A มาด้วยกัน เวลามีการแสดงที่เธียเตอร์ตอนที่รุ่นพี่ไม่อยู่ จะมีภาพลักษณ์ว่ามานากะจะเป็นคนช่วยนำ เลยคิดว่าอยากให้เป็นค่ะ ส่วนนารุจังเนี่ย
นารุ อื้ม
มี่อง เมื่อสองสัปดาห์ก่อนที่จะมีการสลับทีม ก็มีคิดๆ ไว้อยู่ว่า “อยากให้นารุจังเป็นกัปตันจัง” เลยตกใจที่ได้เป็นจริงๆ ถึงที่ผ่านมานารุจังจะไม่ได้มีบทบาทแนวๆ กัปตันมาก่อน แต่คิดว่าความตั้งใจและความเอาจริงเอาจังต่อเวทีนั้นสำคัญสำหรับกับการเป็นกัปตัน เลยรู้สึกว่าจะเป็นกัปตันที่ดูพึ่งพาได้ค่ะ
นารุ เย้~!
มี่อง หวังว่าจะได้แสดงเสน่ห์ด้านอื่นออกมาผ่านการเป็นกัปตันด้วยค่ะ ตั้งตารอเลยค่ะ
เท่ากับว่าจะเป็น มุไคจิทีม A, ทากุจิทีม K, อาซาอิทีม B, คุราโน่ทีม 4 สินะ คิดว่าจะสืบทอดสีเดิมของทีมกันอยู่แล้ว แต่อยากจะดึงสีใหม่ๆ หรืออยากเพิ่มสีอะไรในแต่ละทีมกันรึเปล่า?
นารุ ทีม 4 เนี่ยคิดว่าน่าจะติดภาพอายุน้อยกัน แถมยังมีเพลงแนวนี้ก็เยอะ แต่รู้สึกว่าไม่ต้องไปผูกมัดกับแนวคิดแบบนั้นก็ได้ เลยคิดว่าเป็นทีมที่น่าจะท้าทายอะไรหลายอย่างได้ง่ายค่ะ จะมีแนวคิดยึดติดทำนองว่าทีม A มีเมมเบอร์ที่เป็นศูนย์กลาง (ของ AKB48) อยู่เยอะ ทีม K เป็นเรื่องเต้น ทีม B น่ารักๆ อยู่นี่คะ แต่ว่าจะไม่ไปสนใจตรงนั้น เพราะคิดว่ามีเมมเบอร์ที่เล่น Performance ได้ดี แถมแนวสวยๆ ก็เยอะ เลยหวังว่าจะเพิ่มเฉดสีที่ต่างออกไปได้ค่ะ
นามิน ทีม B มีรุ่น Second Generation เป็นต้นไปแทบจะเป็นหลัก เลยหวังว่าถ้ามีเมมเบอร์ที่สร้างผลงานในทีม B ใหม่เพิ่มขึ้นอีกก็คงดี โดยที่อยากจะให้ความสำคัญกับความเป็นทีม B ที่ผ่านมาและความน่ารักตามขนบไอดอลไปด้วยค่ะ เพียงแต่ถ้าพูดถึงทีม B ก็จะมีภาพจำที่ถูกพูดว่าเตรียมตัวชักช้า (หัวเราะ) เพราะงั้นเลยอยากจะแก้ไขตรงนั้นค่ะ
มี่อง ความประทับใจแรกของทีม A คือมีเมมเบอร์ที่โดดเด่นสุดๆ อยู่เยอะเลย แล้วก็เมื่อเทียบกับทีมอื่น ก็จะมีเมมเบอร์รุ่นพี่จาก First Generation เยอะผิดคาด เลยอยากจะทุ่มเทให้กับ Performance อย่างหนักค่ะ คิดว่าจนถึงตอนนี้ เมื่อพูดถึง Performance หรือการเต้นแล้วจะมีภาพลักษณ์เป็นทีม K แต่แทนที่จะเป็น Performance เท่ๆ แบบมีพละกำลัง ก็อยากให้ออกมาประมาณว่าความพร้อมเพรียงที่ผ่านการขัดเกลา ไม่ก็งดงามเป็นหนึ่งเดียวกันค่ะ ซึ่งมี นาจัง (โอคาดะ นานะ) กับ ฮี่จัง (ฮอนดะ ฮิโตมิ) ที่คอยนำตอนเพลง Ne mo Ha mo Rumor อยู่ด้วย เลยคาดหวังอย่างมากว่าน่าจะทำให้เลเวลด้าน Performance สูงขึ้นค่ะ
มานากะ ทีม K ยังไงก็มีภาพจำเรื่องการเต้น แถมยังมีสิ่งที่เรียกว่า ‘จิตวิญญาณทีม K’ ด้วย เลยอยากจะสืบทอดสิ่งนั้นไว้อย่างดีค่ะ แต่ไม่ใช่แค่การเต้นเท่านั้น อยากจะให้เมมเบอร์แต่ละคนมีอะไรติดตัวนอกจากการเต้นเพิ่มอีกอย่างด้วยค่ะ อย่างเช่น เต้นกับร้อง, เต้นกับพูด รู้สึกว่าถ้าทุกคนหาอะไรเจอเพิ่มเข้าไปอีกอย่าง จะทำให้เป็นทีมที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิมค่ะ เพราะงั้นก็อยากจะหาสิ่งที่ว่าของเมมเบอร์แต่ละคนให้เจออย่างดีค่ะ
คิดว่าสเตจทีมใหม่น่าจะยังอีกนาน แต่ก่อนหน้านั้นเป็นการแสดงโฉมใหม่ให้เห็นในคอนเสิร์ตเดือนกุมภาพันธ์สินะ ถึงคิดว่าน่าจะยังไม่ได้กำหนดอะไรกันก็ตาม…
(หมายเหตุ : คอนเสิร์ตดังกล่าวถูกยกเลิกเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19)
มี่อง อันนั้นส่วนใหญ่กำหนดไปแล้วค่ะ
ไว!
มี่อง หลังปีใหม่ก็รวมตัวกันผ่านออนไลน์หลายต่อหลายหนแล้วประชุมเซ็ตลิสต์กันค่ะ เมื่อวาน 4 คนนี้กับทีมงานก็มีประชุมทางไกลกันประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง แล้วออกมาประมาณว่า “มาดึงเฉดสีใหม่ของแต่ละทีมออกมากันเถอะ”
นามิน รู้สึกว่าความเป็นตัวของตัวเองของแต่ละทีมชัดเจนต่างกับคอนเสิร์ตทุกทีเลยค่ะ
เป็นเซ็ตลิสต์ที่ใส่สีสันของทีมใหม่เข้าไป?
มี่อง อยากให้ภาพลักษณ์และเพลงที่จะเล่นไม่ซ้ำกับทีมในอดีต ทุกคนเลยเลือกเพลงที่ไม่ค่อยได้ฟังในคอนเสิร์ต ไม่ก็ใส่เพลงดีๆ ที่ถูกเก็บไว้มาใส่ตามจุดต่างๆ
มานากะ มีเพลงที่รู้สึกว่าไม่ได้ฟังกันมานานแน่ๆ ค่ะ
มี่อง ฉันดีใจมากเลยที่ทีม B เลือกเพลงนั้น นามินเป็นคนเลือกเพลงที่น่าจะเพิ่งเคยเล่นไปแค่ครั้งเดียวแน่ๆ
นามิน รู้สึกว่าไม่ได้เล่นเลยสักนิดค่ะ เพราะเป็นเพลงที่ไม่ค่อยได้เล่นเนี่ยแหละ ถึงคิดว่า “ถ้ามาเป็นภาพลักษณ์ให้กับทีม B ใหม่ได้ก็คงดี” เลยหยิบมาใช้ค่ะ
มานากะ แล้วก็มีแบบนี้ด้วยนี่คะ เพลงที่รู้สึกแบบ “ได้ดูเพลงนี้ด้วย!” น่ะค่ะ
มี่อง นั่นสิ จะว่าไปแล้วก็ใช่
มานากะ เพลงนั้นคิดว่าแฟนๆ ทุกคนน่าจะประทับใจกัน
นารุ จะว่ายังไงดีนะคะเนี่ย
ยากสินะ การพูดไม่ให้สปอยล์เนี่ย
มี่อง ใช่เลยค่ะ ถึงจะเป็นคอนเสิร์ตทีม แต่ก็เตรียมสิ่งที่อยากให้เห็นในฐานะที่ AKB48 รวมกันเป็นหนึ่งเอาไว้อย่างดีด้วยค่ะ เพราะงั้นตั้งตารอกันด้วยนะคะ
พูดถึงเหตุการณ์ช่วงนี้ของ AKB48 ก็คือการออดิชั่นรุ่น 17 มีสิ่งที่คาดหวังมั้ย
นามิน ความอ่อนเยาว์
มานากะ จะว่าไปก็ใช่ AKB48 ในตอนนี้แทบไม่เหลือเด็ก ม.ต้น แล้วนี่เนอะ
นามิน พอถึงปีหน้าจะไม่เหลือเด็ก ม.ต้น แล้วค่ะ (โทคุนากะ) เรมิจัง กับ (ซาคากาวะ) ฮิยุกะจังตอนนี้ก็ ม.3 กันแล้ว
มี่อง อยากให้ดูเด็กลงเนอะ
อยากให้รุ่นน้องหลั่งไหลเข้ามากันไหม?
มี่อง จะว่ายังไงดี แต่ก็รู้สึกว่าอยากให้จัดสเตจเคงคิวเซจัง…
นารุ อยากให้เข้ามาจำนวนประมาณนั้น
นามิน พวกเรา (รุ่น 16) มีกันเกือบ 20 คน ได้จัดสเตจเคงคิวเซแล้วสนุกกันมากๆ แถมยังไงก็มีแฟนคลับที่ชอบเคงคิวเซกันอยู่แน่ เพราะงั้นจึงคิดว่าถ้าได้จัดสเตจที่มีเฉพาะเคงคิวเซน่าจะสนุกกว่าการเป็นเคงคิวเซที่แค่อันเดอร์ให้กับทีม เลยอยากให้เข้ามากันเยอะๆ ค่ะ
มี่อง ต้องมีเด็กที่เกิดมาช่วงที่ AKB48 ดังเป็นพลุแตกอยู่ด้วยค่ะ จะว่าพูดเวอร์ไปมั้ย แต่ก็เป็นไปได้สินะ
นามิน เด็กอายุ 12-13 ปี มีอยู่แล้วแหละค่ะ
มี่อง ถ้ามีเด็กที่ชอบ AKB48 มากๆ จนถึงทุกวันนี้ ไม่ก็เด็กที่ ‘มีความรักต่อ AKB48’ เข้าวงมา ก็จะดูน่าสนุกดี แต่ต่อให้เป็นเด็กที่แค่อยากร้องอยากเต้นเฉยๆ ก็ดีเหมือนกันแหละค่ะ
นามิน จะดีใจถ้าเข้าวงมาแล้วหันมาชอบ AKB48
นารุ ถ้ามีเด็กหลากหลายแบบก็ดีเลยสินะคะ เด็กที่ถนัดเต้น เด็กที่ชอบการพูด เด็กที่ตัวสูง เด็กที่ตัวเล็กๆ คิดว่าเพราะมีเมมเบอร์หลากหลายแบบเนี่ยแหละถึงเป็น AKB48 ค่ะ
เข้าใจแล้ว คิดว่าปี 2022 เป็นปีแห่งการพลิกโฉม เลยอยากถามทีละคนถึงสิ่งที่อยากทำให้สำเร็จลุล่วง สิ่งที่อยากท้าทาย สิ่งอยากเริ่มต้นใหม่เป็นการส่วนตัวในปีนี้ได้มั้ยครับ
นามิน อยากสร้างกล้ามท้องเลข 11 (11 Line Abs) ค่ะ! ลดน้ำหนักควบคู่ไปกับการเล่นกล้ามมาตลอดราว 1 เดือนเพื่อ Fresh Concert ที่จะจัดขึ้นใน (วันที่ 13) เดือนมกราคมมาค่ะ รู้สึกว่าผู้หญิงที่มีกล้ามท้องเลข 11 จะดูงามสุดๆ รู้สึกว่ากล้ามท้องเลข 11 สวยกว่ามีซิกซ์แพ็ค เพราะงั้นปีนี้เลยอยากจะมีกล้ามท้องเลข 11 ให้ได้ค่ะ แต่เพราะไม่ถนัดการทำอะไรต่อเนื่อง เลยมีเป้าหมายคือการเล่นกล้ามต่อเนื่องค่ะ
นารุ ฉันมีเยอะเลยค่ะ ก่อนอื่นเพราะเป็นคนที่ลงมือทำอะไรกระชั้นชิดก่อน 5 นาที เลยตั้งใจว่าจะไม่เป็นเมมเบอร์ที่เข้าสตูดิโอเป็นคนสุดท้าย กับเลิกเข้าหาคนอื่นได้ยาก แล้วก็อยากเป็นคนที่สามารถพูดความเห็นได้ทุกเรื่อง
คืออะไรน่ะ?
นารุ ถึงเรื่องเป็นกัปตันจะมีส่วนด้วยก็ตาม แต่ที่ผ่านมามีบ่อยครั้งเลยที่ต่อให้อยากพูดแต่กลับไม่พูดออกไปค่ะ เพราะมองว่า “จะพูดออกไปดีมั้ยนะ” ไม่ก็ “ฉันไม่เห็นต้องพูดก็ได้นี่” อยู่บ่อยครั้ง ปีนี้เลยตั้งใจว่าอยากจะทำให้สิ่งนั้นหมดไป หากคิดว่า “พูดออกไปดีกว่า” ก็จะพูดออกไปเลยค่ะ
มานากะ ฉันอยากมีทักษะเฝ้าสังเกตคนอื่นติดตัวค่ะ อย่างเช่น ถ้าเจอว่า “ตรงนี้ถ้าทำแบบนี้จะยิ่งดีขึ้น” ก็จะเพิ่มเสน่ห์ในแง่ Performance ของทุกคนให้มากยิ่งขึ้นได้อีกนี่แหละค่ะ เลยอยากจะศึกษาวิธีการแสดงออกของตัวเองในมุมนั้น แล้วอยากจะเจอวิธีแสดงออกที่เหมาะของแต่ละคนให้เจอด้วยค่ะ อย่างวิธีการถ่ายทอดเนี่ย แต่เพราะฉันไม่ใช่ครูสอนเลยไม่ค่อยพูดอะไรออกไปเท่าไหร่ ตัวเองเลยอยากจะมีทักษะการถ่ายทอดติดตัวให้ดีในระดับที่พูดออกไปได้ แล้วก็อยากให้ทุกคนแสดงออกมาได้ดีด้วยกันยิ่งขึ้นค่ะ
มิองจังว่ายังไงครับ?
มี่อง ฉันเองก็มีหลายอย่างเหมือนกันค่ะ ก่อนอื่นอยากจะสนิทกับรุ่นน้อง แน่นอนว่าคุยกันอยู่แล้ว แต่ไม่ได้ขนาดสนิทชิดเชื้อกันค่ะ มีเมมเบอร์ที่เข้าหาคนอื่นได้ยากแบบนารุก็ไม่น้อย ถึงฉันจะคุยกับนารุจังได้อย่างสบายๆ ก็ตาม แต่ตัวฉันเองก็ยังมีจุดที่เข้าหาคนอื่นได้ยากอยู่เหมือนกัน เลยคิดถ้าได้สนิทกับรุ่นน้อง ไม่สิ กับเมมเบอร์ทุกคนได้เหมือนเพื่อนสนิทเนี่ยจะต้องสนุกแน่ๆ เลยค่ะ ซึ่งนี่คือเป้าหมายค่ะ แล้วก็อยากจะคว้าใบประกาศเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ดูค่ะ (มุโต้) โทมุซัง มีทั้งใบประกาศของนักพยากรณ์อากาศและ Financial Planner แล้วเมมเบอร์หลายคนเองก็มีใบประกาศกันพอควร เลยรู้สึกว่าเท่ดี พอคิดว่าถ้าฉันเองจะมีใบอะไรสักอย่างเนี่ย ก็เพราะฉันชอบคอมพิวเตอร์เนี่ยแหละค่ะ
ถ้าคว้าใบประกาศได้จะทำอะไรเหรอ ซึ่งโทมุจังก็ทำแบบนั้นแหละนะ
มี่อง อาจจะนำไปสู่การทำงานสักอย่างและอาจจะมีประโยชน์ในอนาคตก็ได้ เลยขอเอกสารเกี่ยวกับการสมัครสอบมาไว้เมื่อราว 1 ปีก่อน แต่ก็ยังไม่ได้ทำอะไรเลย คิดว่าจะเริ่มเอาจริงได้แล้วค่ะ
แล้วก็สุดท้าย ขอสรุปสิ่งที่คุยกันด้วยการฝากข้อความที่เต็มไปด้วยความคาดหวังต่อ AKB48 บทใหม่ในฐานะกัปตันคนใหม่หน่อยครับ
มานากะ ถึงตัวเองจะยังมีจุดที่อ่อนประสบการณ์อยู่มาก แต่เพราะทีม K ใหม่มีเมมเบอร์เดิมจากทีม K ในตอนนี้กันหลายคน ตอนนี้เลยขอให้เมมเบอร์ช่วยบอกเกี่ยวกับทีม K จนถึงตอนนี้อยู่ค่ะ อยากจะหลงเหลือรูปแบบ “ทีม K จนถึงตอนนี้” เอาไว้ ในขณะที่สร้างทีม K ใหม่ในแบบตัวเองไปด้วยค่ะ โดยเฉพาะเซ็ตลิสต์ของคอนเสิร์ตเนี่ย ฉันใส่ใจเป็นพิเศษสุดๆ เลยค่ะ อยากจะทำให้เป็นคอนเสิร์ตที่ออกมาสนุก เพราะงั้นอยากให้คาดหวังจุดนั้นกันค่ะ
นามิน ที่จริงแล้ว จะเรียกว่าฉันไม่ถนัดชี้แนะทุกคนในด้าน Performance ก็ไม่เชิง แต่เพราะไม่เคยทำ เลยคิดว่าน่าจะอ่อนในจุดนั้น โดยตัวเองก็จะพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อชดเชยในส่วนนั้น หวังว่าจะแสดงออกมาเป็นแบบอย่างที่สามารถโชว์แผ่นหลังอันผ่าเผยให้ทุกคนได้เห็นค่ะ แล้วหวังว่าจะเป็นทีมที่มีภาพลักษณ์ติดตัวในแบบที่ว่า “ทีม B เป็นแบบนี้นี่เอง” ค่ะ จะพยายามอย่างสุดกำลังค่ะ
นารุ ทีม 4 มีเมมเบอร์ดูโก๊ะๆ ซะเยอะ เลยว่าจะพยายามตบมุกค่ะ (หัวเราะ)
ตบมุกเนี่ย
นารุ รู้สึกว่าจะเป็นทีมที่น่าสนุกสุดๆ เพราะงั้นเลยอยากจะพยายามเป็นคนที่เวลาเล่นหยอกล้อก็จะเล่น แล้วตัวเองสามารถคอยเบรคได้ค่ะ อยู่กับ มิเนกิชิ (มินามิ) ซังในทีม K มาก่อน ก็จะมีช่วงที่คึกกันซะเยอะ แล้วเวลาแบบนั้นมี่ซังจะเป็นคนคอยเบรคค่ะ พอพูดว่า “ทุกคน ทำออกมาให้ดีกัน” ทุกคนก็จะทำ ดูมี่ซังไปแล้วก็พลางคิดว่าเป็นอะไรวิเศษไปเลย เพราะงั้นตัวเองอยากจะเป็นกัปตันที่ในเวลาเล่นหยอกล้อก็จะเล่นให้เต็มที่ แล้วเวลาที่ต้องลงมือทำก็จะทำให้ดีค่ะ
มี่อง พู่กันแรกของฉันในปีนี้เขียน “二刀流 (ดาบคู่)” ไปค่ะ หมายถึง “อยากจะพยายามทั้งสองตำแหน่ง ทั้งโซคังโตคุและกัปตัน” โดยจะรับฟังเมมเบอร์แต่ละคนในฐานะกัปตันทีม แล้วขยับขึ้นไปอีกระดับก็คือรวมวงในฐานะโซคังโตคุ อาทิ ถ้าเป็นเมมเบอร์ที่ไม่เคยคุยด้วย ก็จะให้สนิทกันผ่านเมมเบอร์ทีม A ตอนนี้เลยหวังว่าจะตั้งใจทำด้วยความรู้สึกว่ามีตำแหน่งโซคังโตคุที่เป็นขั้นกว่าของกัปตันได้น่ะค่ะ เพราะงั้นจะพยายามกับทั้งคู่ค่ะ ขอฝากสนับสนุนมุไคจิทีม A และทีมแต่ละทีม รวมถึง AKB48 ด้วยนะคะ
ที่มา : นิตยสาร BIG ONE GIRLS ฉบับวางจำหน่ายวันที่ 31 มกราคม 2022
Leave a Reply