A Beat Grand Prix เป็นอีเวนท์ร่วมกันระหว่างแอพฯมิวสิคเกมของ AKB48 อย่าง AKB48 Beat Carnival  และนิตยสาร OVERTURE ซึ่งมีกราเวียร์ของ 5 อันดับผู้เปล่งประกายได้แก่ ชิตาโอะ มิอุ, ซาซากิ ยูคาริ, อาซาอิ นานามิ, ซาโต้ มินามิ และ มาจาริน ตีพิมพ์อยู่ในนิตยสารฉบับที่ 19 ที่วางจำหน่ายอยู่ขณะนี้ ครั้งนี้จะขอนำเสนอบทสัมภาษณ์ของอาซาอิ นานามิ ที่สัมภาษณ์จากกองถ่าย ไปพร้อมๆ กับ Another Cut ของกราเวียร์


 

เริ่มจากถามเรื่องส่วนตัวของอาซาอิซังก่อน ตั้งแต่เดือนเมษาที่ผ่านมาก็ได้เป็นนักศึกษาแล้ว  การสอบเข้าระหว่างทำกิจกรรม AKB48 ไปด้วยเนี่ยลำบากสินะ?

นามิน : มหาวิทยาลัยที่เรียนอยู่ตอนนี้เป็นมหาวิทยาลัยดนตรี เข้ามาได้ด้วยโควตารับตรง ก็เลยไม่ต้องสอบแอดมิชชั่นค่ะ ตอนสอบก็จะเป็นสัมภาษณ์กับสอบร้องเพลง

 

สอบร้องเพลงเหรอ?

นามิน : ค่ะ เป็นการสอบที่ให้ร้องเปลี่ยนตามคีย์ของเสียงเปียโนที่อาจารย์เล่นค่ะ

 

ตั้งใจจะเข้ามหาวิทยาลัยดนตรีแต่แรกอยู่แล้ว?

นามิน : ที่จริงไม่ได้คิดเลยจนกระทั่งหน้าร้อนปีที่แล้วค่ะ พ่อแม่แนะนำให้เข้ามหาวิทยาลัยจริงๆ จังๆ  แถมกึ่งบังคับลากไปงาน Open Campus ด้วย เป็นมหาวิทยาลัยที่อยู่ตอนนี้แหละค่ะ จุดเริ่มต้นมาจากตอนนั้นที่รู้สึกว่าก็น่าสนุกดีค่ะ

 

ชีวิตในมหาวิทยาลัยเป็นอย่างไรบ้าง?

นามิน : มีคนที่ชอบดนตรีมาอยู่ด้วยกัน ได้ยินเสียงดนตรีดังก้องเป็นเรื่องปกติเลยค่ะ มีทั้งซ้อมดนตรี มีทั้งร้องเพลง ทุกคนขวนขวายในสิ่งที่อยากทำ เลยรู้สึกว่าเป็นแรงกระตุ้นอย่างมากค่ะ

 

หาเพื่อนได้รึยังครับ?

นามิน : ได้แล้วค่ะ! ตอนพิธีปฐมนิเทศหาไม่ได้เลยลนลาน แต่ตอนที่มีกิจกรรมให้แต่ละคณะมารวมตัวกัน เด็กผู้หญิงที่นั่งข้างหน้าน่ารักสุดๆ เลยรวบรวบความกล้าทักดูค่ะ

 

ปัญหาแรกสุดของชีวิตมหาลัยคือกังวลว่าจะหาเพื่อนได้มั้ยสินะครับเนี่ย

นามิน : ใช่เลยค่ะ กังวลอยู่ตลอดเลย แฟนๆ ก็เป็นห่วงมากเหมือนกัน หาเพื่อนตอนพิธีปฐมนิเทศไม่ได้ ก็ลนลานว่าเอาไงดี เอาไงดีเนี่ย แล้วพอไปมหาวิทยาลัยในวันต่อมาก็บังเอิญเจอเพื่อนสมัยมัธยมต้นค่ะ เลยถามเพื่อนคนนั้นว่า “บอกวิธีหาเพื่อนให้หน่อยสิ” ค่ะ (ฮา)

 

เอาเป็นเอาตายน่าดูเลยนะเนี่ย

นามิน : ค่ะ ถูกเพื่อนคนนั้นบอกมาว่า “ไม่ได้นะ ตัวเองต้องเป็นคนเริ่มทักสิ” “โอกาสคือเวลาที่คนในคลาสหรือในคณะมารวมตัวนะ” ก็เลยทำตามคำแนะนำค่ะ

 

โล่งอกไปทีนะครับ

นามิน : ตอนพิธีปฐมนิเทศก็มีคนที่เป็นเพื่อนกันอยู่แล้วอยู่เยอะเลยค่ะ เห็นว่าติดต่อกันผ่าน SNS ตั้งแต่ก่อนช่วงพิธีปฐมนิเทศซะอีก

เริ่มต้นการทำกิจกรรมของ AKB48 ควบคู่ไปกับมหาวิทยาลัยจากนี้ไปสินะครับ  รุ่นพี่ AKB48 ก็มีคนที่จบมหาวิทยาลัยอยู่เหมือนกัน มีปรึกษารุ่นพี่บ้างมั้ยครับ?

นามิน : มีค่ะ เป็นสมัยช่วง PRODUCE48 ค่ะ เพราะอิวาตาเตะ ซาโฮะซังกับทาเคอุจิ มิยุซังเป็นรุ่นพี่ที่จบมหาวิทยาลัยแล้ว เลยขอคำปรึกษามาค่ะ ได้รับคำปรึกษาจากทาเคอุจิ มิยุซังว่า “ตอนสอบสัมภาษณ์พูดถึงเรื่อง PRODUCE48 ดีกว่านะ”

 

ว่าจะถามเรื่อง PRODUCE48 พอดีเลยครับ ประสบการณ์ครั้งนั้นถือว่าเป็นประสบการณ์ครั้งใหญ่สำหรับตัวอาซาอิซังเลยมั้ยครับ?

นามิน : มากเลยค่ะ อย่างแรกเลยก็คือ ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยได้ข้องเกี่ยวกับรุ่นพี่เท่าไหร่ เพราะเด็กรุ่น 16 มีแต่ทำกิจกรรมกันเฉพาะในรุ่นซะเยอะค่ะ แถมยังสนิทกับชิโรมะ มิรุซังกับมัตสึอิ จูรินะซังข้ามวงได้อีก ถือว่าเป็นประสบการณ์ครั้งใหญ่เลยค่ะ มักจะแบ่งขนมให้ชิโรมะ มิรุซังด้วยล่ะค่ะ

 

ขนมเหรอครับ?

นามิน : ค่ะ ฉันมักจะท้องว่างเลยหยิบถุงขนมมา ยื่นให้ชิโรมะซังแล้วบอกว่า “เชิญตามสบายเลยค่ะ” (หัวเราะ) ส่วนจูรินะซังก็ช่วยซ้อมเต้นเป็นเพื่อนค่ะ

 

เป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่าเลยสินะ

นามิน : ชิโรมะซังช่วยให้คำปรึกษาตั้งแต่ช่วงที่ลังเลว่าจะเข้าร่วมโปรเจคนี้ดีมั้ยแล้วล่ะค่ะ ตอนที่ฉันลังเลอยู่ บังเอิญชิโรมะซังอยู่ตรงนั้นพอดี ทางชิโรมะซังตัดสินใจไปแล้วว่าจะเข้าร่วม ส่วนฉันก้าวขาไปข้างนึงแล้วว่าจะลง แต่ก็ยังกลุ้มใจอยู่ดี เพราะมีเรื่องการเรียนด้วย

ชั้น ม.6 พอดี เป็นช่วงที่ลังเลในเส้นทางชีวิตหลายอย่างเลยนะครับเนี่ย

นามิน : แล้วตอนนั้นชิโรมะซังก็ช่วยผลักดันว่า “ตัดสินใจว่าจะทำแล้วก็ทำไปดีกว่าน่า โอกาสเข้ามาทั้งที” เลยตัดสินใจได้ว่าจะลงค่ะ

 

เป็นคำแนะนำที่เด็ดเดี่ยวดีนะครับ หลังจากผ่าน PRODUCE48 ตัวอาซาอิซังมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้างมั้ยครับ?

นามิน : รู้สึกว่าสภาพจิตใจเข้มแข็งขึ้นค่ะ แล้วก็เพราะต้องซ้อมเพลงเดิมอยู่ตลอด เลยทำให้มีสมาธิดีขึ้นค่ะ

 

เดือนเมษายนปีนี้ได้จัด Solo Live ที่ Live House มาสินะครับ

นามิน : ใช่ค่ะ มีกิจกรรมของ AiKaBu (AiKaBu เกมตลาดหุ้นไอดอล) ที่ถ้าหากคว้าอันดับ 1 จะทำให้ความฝันเป็นจริงได้ค่ะ แล้วแฟนๆ ก็ทำให้ติดอันดับ 1 จนได้จัด Solo Live ค่ะ โดยคิด Set List เองตั้งแต่แรก ได้วงดนตรีมาช่วยเล่นด้วย

วิดีโอเพลง Secret Base จากงาน Solo Live ของนามินบน Twitter ของเจ้าตัว (ที่มา)

 

ได้ลองจัดแล้วเป็นอย่างไรบ้าง?

นามิน : สนุกมากเลยค่ะ ทำให้มีเป้าหมายในอนาคตว่าอยากจัด Solo Concert ขึ้นมาอีกเลยค่ะ รู้ว่ามันไม่ใช่ความฝันที่จะสมหวังได้ทันที แต่อยากจะทำให้สำเร็จขณะที่ยังอยู่ในฐานะ อาซาอิ นานามิ วง AKB48 ค่ะ จริงๆ เดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้ชม Solo Concert ของมุรายามะ ยุยริซังแล้วก็คิดว่า ถ้าได้ร้องเพลงในที่ใหญ่ๆ แบบนั้นคงจะรู้สึกดีน่าดู ก็เลยมีแพชชั่นมาตั้งแต่ตอนนั้นค่ะ คิดว่าตัวเองน่าจะไม่ไหวหรอก แต่พอสัมผัสประสบการณ์ Solo Live แล้ว ก็อยากทำให้ฝันนี้เป็นจริงขึ้นมาให้ได้อีกค่ะ

อย่างนี้นี่เอง เป็นเป้าหมายใหญ่สินะครับ

 

แล้วจะเรียกว่าเป้าหมายอันใกล้ขึ้นมาหน่อยก็ไม่เชิง มีเป้าหมายที่อยากทำให้สำเร็จในหน้าร้อนนี้มั้ยครับ?

นามิน : ฉันอยู่ทีม 4 เลยอยากจะเป็นกำลังให้กับกัปตันให้มากกว่านี้ค่ะ ถึงแม้ว่าฉันมักจะได้รับหน้าที่เป็นคนคอยนำอยู่บ่อยๆ ตอนอยู่กับรุ่น 16 แต่ในทีม 4 กลับเป็นผู้ตามซะมากกว่า เพราะเป็นรุ่นน้องด้วยน่ะค่ะ แต่ช่วงนี้เริ่มรู้สึกว่าขืนเป็นแบบนี้ต่อไปคงไม่ได้แน่ คิดว่าการที่กัปตันต้องคอยนำคนตั้งหลายสิบคนด้วยตัวคนเดียว เป็นอะไรที่ลำบากมากๆ ด้วยค่ะ ถึงฉันจะยังมือใหม่แถมเป็นรุ่นน้อง แต่ฉันว่า ถ้าเพื่อทำให้ AKB48 ดียิ่งขึ้น การพูดสิ่งที่คิดออกไปก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่นา

 

เป็นเป้าหมายที่แน่วแน่น่าดูเลยนะครับ

นามิน : (กัปตัน มุรายามะ) ยุยริซังเองก็บอกว่า “จะดีใจนะถ้าช่วยพูดออกมา” เลยอยากที่จะสามารถสนับสนุนกัปตันได้ค่ะ มุไคจิ มิองซัง และโยโกยามะ ยุยซังเองก็บอกว่า “ถ้ามีไอเดียก็บอกมาได้เลยนะ” คิดว่าในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของ AKB48 ยังไงก็ต้องทำให้วงดีขึ้นอยู่แล้วล่ะค่ะ การที่จะให้รุ่นพี่เป็นคนแบกรับภาระทั้งหมดก็คิดว่าไม่ถูกต้องด้วย เพราะฉะนั้นตัวพวกเราเองก็ต้องแน่วแน่ให้ยิ่งกว่านี้ค่ะ

 

มีที่คิดออกมาแบบเฉพาะเจาะจงว่าควรจะทำบ้างมั้ย?

นามิน : คิดว่าถ้าเพิ่มกิจกรรมข้างนอก นอกเหนือจากการแสดงเธียเตอร์ด้วยก็คงดีล่ะค่ะ AKB48 มีจำนวนคนอยู่เยอะ เพราะงั้นอยากให้แบ่งเป็นกลุ่มจำนวนคนน้อยๆ ก็ได้ แล้วไปเข้าร่วมกิจกรรมข้างนอกอย่างต่อเนื่องให้คนหมู่มากได้รู้จัก AKB48 ในตอนนี้ให้มากขึ้นค่ะ

 

ต้องหาแฟนหน้าใหม่เพิ่มให้ได้

นามิน : ค่ะ โยโกยามะซังบอกว่าอยากจะไปยืนที่ Tokyo Dome อีกครั้ง ฉันเองก็อยากเห็นภาพที่พวกรุ่นพี่เคยเห็นมาก่อนเหมือนกัน และเพื่อให้ฝันนี้เป็นจริง ก็เลยอยากทำให้ AKB48 ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นค่ะ

 

เป็นความคิดที่ยอดเยี่ยมเลยล่ะครับ

นามิน : แต่ตัวเองยังไม่เอาไหนอยู่ เลยต้องพยายามค่ะ ถึงจะได้รับเลือกให้เป็นเซ็มบัตสึของรุ่นใหม่ก็ตาม แต่กับเซ็มบัตสึหลักก็ยังเป็นสิ่งที่อยู่ห่างไกลค่ะ แฟนๆ มาบอกกันว่า “อยากให้ตั้งเป้าไปที่เซ็มบัตสึ” ก็เลยอยากก้าวข้ามไปให้ได้ค่ะ


▽อาซาอิ นานามิ

เกิดวันที่ 20 พฤษภาคม 2000
บ้านเกิด จังหวัดคานากาวะ
เดือนธันวาคม 2016 เปิดตัวในฐานะเมมเบอร์ AKB48 รุ่นที่ 16 
เดือนธันวาคม 2017 ถูกโปรโมทขึ้นทีม 4
ปี 2018 แข่งขันรายการ PRODUCE48 ถึงรอบ 58 คน
ปี 2019 ได้รับเลือกเป็นเซ็นเตอร์เพลง Seishun Da Capo ของ AKB48 Coupling Senbatsu จากซิงเกิลที่ 56 ซิงเกิล Sustainable

Twitter @48_asainanami
Instagram naamin48_

 

 

ที่มา : ENTAME next 05/07/2019