ที่มาภาพ จาก @48_asainanami

ตั้งแต่เข้าเดือนตุลาคม AKB48 Theater เพิ่มจำนวนผู้ชมที่เข้าชมสเตจในแต่ละรอบการแสดงเป็น 91 คน โดยผ่อนปรนตามข้อบังคับเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ตามรัฐบาลญี่ปุ่น ถึงระหว่างนี้จะมีการจัดอีเวนท์วันเกิดสำหรับเมมเบอร์บางคน แต่สเตจนี้เป็นครั้งแรกที่กลับมาจัดสเตจวันเกิดในรูปแบบปกติอีกครั้ง หลังจากห่างหายไปตั้งแต่ปิดเธียเตอร์เดือนกุมภาพันธ์ ทั้งนี้ ยังคงจำนวนเมมเบอร์ที่ขึ้นแสดง 8 คนต่อ 1 รอบการแสดงเอาไว้ก่อน

วันที่ 1 ตุลาคม ประเดิมกันที่สเตจวันเกิดของ อาซาอิ นานามิ (นามิน) สมาชิก AKB48 Team 4 ที่อายุครบ 20 ปีไปเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ใช้เวลา 4 เดือนกว่าถึงจะได้จัดสเตจวันเกิด โดยมี ทากุจิ มานากะ เพื่อนร่วมรุ่น 16 เป็นผู้ดำเนินงานวันเกิดและตัวแทนอ่านจดหมายจาก ยามาอุจิ มิซึกิ (ซุกกี้) และจดหมายจากคุณแม่ของนามิน


แปลจดหมายจากซุกกี้

ถึงนามิน

สุขสันต์วันเกิดอายุ 20 ปีนะ

ได้พบกับนามินเป็นครั้งแรกก็ที่สถานที่จัดงานคัดเลือกรอบสุดท้ายของการออดิชั่นรุ่นที่ 16 เนอะ

ภาพจำของนามินตอนที่ซ้อมในฐานะเคงคิวเซชั่วคราว คือ เด็กมุมานะที่ขยันทบทวนอยู่เงียบๆ คนเดียวแม้กระทั่งในช่วงพักเบรคค่ะ

ในตอนนั้นยังไม่เคยคุยกันสักประโยค แต่หลังจากทำกิจกรรมวงในฐานะเคงคิวเซรุ่น 16 ก็ได้จับคู่กันมากขึ้น ไม่ว่าจะในยูนิตสเตจเคงคิวเซ เพลง Anata to Christmas Eve ในตำแหน่งเพลงรุ่น 16 เพลง Dakitsukouka? แล้วก็ในเพลงรองของซิงเกิลต่างๆ ซึ่งตัวฉันที่อยู่ข้างๆ ได้รับแรงกระตุ้นมากมายจากนามินที่เข้มงวดกับตัวเองและพยายามอย่างสุดกำลังอยู่เสมอค่ะ

หลังจากเลื่อนขั้นขึ้นทีม 4 เวลาที่ได้อยู่ร่วมกันก็ยิ่งเพิ่มขึ้น ตอนนี้ก็ติดต่อกันทุกวัน ตอนที่ทำกิจกรรมวงด้วยกันก็อยู่ข้างกันตลอดเลยเนอะ

นามินทำกิจกรรมควบคู่กับเรียนมหาวิทยาลัยไปด้วย แต่ก็ไม่เคยทำหน้าหมองๆ เลยแม้แต่น้อย เท่ตรงที่ไม่ว่าจะเรื่องไหนก็จะทำอย่างพิถีพิถัน รู้สึกนับถืออยู่ตลอดเลยค่ะ

นามินที่มุมานะ นามินที่พึ่งพาได้ นามินที่ทำอย่างเต็มกำลังไม่ว่าเรื่องใด นามินที่ร้องเพลงเก่ง นามินที่คอยนึกถึงแฟนๆ นามินคนอ่อนโยนที่มาออดอ้อนบอกกันว่า “น่ารัก” อยู่เสมอ นามินที่คึกเกินเหตุ นามินที่ไม่ทิ้ง (ล้อชื่อรายการ OUC48 ‘‘ซุกกี้ทิ้ง นามินไม่ทิ้ง’ ที่ทั้งคู่จัดร่วมกัน) แล้วก็นามินที่ได้รับความรักจากทุกคน ไม่ว่าจะนามินแบบไหนฉันก็รัก ร้าก ร้ากที่สุดเลยค่ะ

ตลอด 1 ปีในช่วงอายุ 20 ปีนี้ ขอให้ความพยายามของนามินที่ทำมาจนถึงตอนนี้ได้ผลิบานเป็นดอกไม้อันแสนวิเศษด้วยเถอะค่ะ

แม้ปกติจะเป็นคนที่ดูไม่ค่อยปริปากบ่นก็ตาม แต่ยังไงก็คุยกับฉันได้ทุกเรื่องนะ ถึงอาจจะพึ่งพาไม่ได้ก็ตาม แต่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็เป็นพวกพ้องของนามินนะ และต่อจากนี้ก็ขออยู่เคียงข้างต่อไปด้วยค่ะ

สุขสันต์วันเกิด
จาก ยามาอุจิ มิซึกิ AKB48 Team 4


จดหมายจากคุณแม่

ถึงนานะ

สุขสันต์วันเกิดอายุ 20 ปีนะ

ได้จัดสเตจวันเกิดที่เกือบจะไม่ได้จัดเพราะโคโรน่าระบาดโดยสวัสดิภาพแล้วสินะ สเตจวันนี้เป็นยังไงบ้าง?

นี่หม่าม้าเองนะจ๊ะ

รู้สึกขอบคุณสตาฟที่เธียเตอร์ทุกท่านที่ช่วยตระเตรียมให้สามารถจัดงานได้ด้วยดี รวมถึงทีมงานจัดงานวันเกิดไปจนถึงแฟนๆ ทุกคน และเมมเบอร์ที่ขึ้นแสดงด้วยกันค่ะ ขอบคุณนะคะ

การที่ติดออดิชั่นรุ่นที่ 16 ของ AKB48 ทั้งรู้สึกว่าเหมือนเพิ่งเกิดเมื่อวาน ทั้งรู้สึกว่าผ่านมาแล้วสักสิบปีแล้วเลย รู้สึกเป็นห่วงที่นานะคนนั้นที่ตอนเด็กๆ ขี้โรค เป็นไข้บ่อยๆ แล้วก็จะร้องไห้ทันที กลับต้องมาเข้าสู่สังคมอันแสนยากเข็ญค่ะ

ตอนที่เข้าร่วมรายการ PRODUCE48 ต้องลำบากลำบนกับการทำกิจกรรมถึง 3 อย่างพร้อมๆ กัน ทั้งกิจกรรมในวง AKB48 ทั้ง PRODUCE48 ทั้งการเรียน ม.ปลาย เลยทะเลาะกับหม่าม้าอยู่บ่อยๆ เลยเนอะ

ตอนที่ย้ายโรงเรียนก็ร้องไห้หนักเลยนี่นะ

แต่หลังจากจบรายการก็มีแฟนที่คอยสนับสนุนจากต่างประเทศเพิ่ม แถมยังได้รับแรงเชียร์จากแฟนที่รอคอยในญี่ปุ่นจนผ่านมาถึงตอนนี้ได้

เจ็บใจที่ตกรอบ อยากจะเพิ่มสกิลตัวเองจนเรียนต่อมหาวิทยาลัย พอเห็นที่กลับมาซ้อมงที่บ้านต่ออย่างตั้งอกตั้งใจ ขณะเดียวกันก็เรียนด้านดนตรีที่ชอบไปด้วย ก็คิดว่า “ดีจริงๆ ที่ปล่อยให้เดินไปตามเส้นทางที่ชอบ” ซึ่งตอนนี้เองก็คิดเช่นนั้นล่ะจ้ะ

ด้วยเหตุนี้เลยได้รับงานด้านดนตรีทีละนิด ได้มีโอกาสแสดงการร้องเพลง ถึงจะยังไม่เอาไหนไปบ้าง แต่รู้สึกว่าค่อยๆ ก้าวไปข้างหน้าทีละก้าวอยู่

ถึงตอนนี้อายุ 20 ปี ที่ผ่านมานานะได้รับความรักมามากมาย แต่ต่อจากนี้หลังจากที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ก็อย่าลืมตอบแทนทุกๆ คนที่อยู่รอบตัว แฟนๆ สตาฟ เมมเบอร์ ครอบครัว รวมถึงเพื่อนๆ แต่ละคนไปทีละเล็กละน้อยนะ

ถึงการแสดงให้เห็นภาพเท่ๆ บนเวทีจะเป็นวิธีหนึ่ง แต่ไม่ใช่แค่นั้น อย่าลืมที่จะพูดคำธรรมดาๆ อย่าง “ขอบคุณ” แล้วก็ “ขอโทษ” ให้เยอะๆ ด้วยล่ะ กับคนที่ไม่ชอบด้วยนะ ไม่ใช่แค่คนที่ชอบอย่างเดียว การทำให้รอบข้างมีความสุขจะทำให้ตัวเราพลอยมีความสุขไปด้วย จริงๆ นะ

แล้วก็คิดว่าคงมีบ้างที่รู้สึกกังวลอนาคต ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร มีบ้างที่อาจยับเยินหรือรู้สึกเจ็บปวด แต่ไม่อยากให้กลัวกับมัน ต่อให้ยับเยิน ต่อให้เจ็บปวด แต่นานะก็เป็นคนที่พยายามอย่างเต็มกำลัง และคิดว่านั่นก็ดูเป็น AKB ดีล่ะ

หม่าม้าเป็นหัวหน้ากลุ่มสนับสนุนของนานะมาตลอดตั้งแต่นานะเกิด และต่อจากนี้ก็จะไม่แปรเปลี่ยนไปด้วยนะ

และไม่ใช่แค่หม่าม้านะ ยังมีคนที่คอยสนับสนุน คนที่คอยเฝ้ามอง คนที่คอยช่วยเหลืออยู่รอบตัวด้วยจ้ะ เพราะงั้นจากนี้ไปก็พยายามอย่างเต็มกำลังหายห่วงได้เลยนะ

1 ตุลาคม 2020
จากหม่าม้า


ตลอด 1 ปีในช่วงอายุ 19 เป็นอย่างไร

ตอนอายุ 19 เองก็ได้รับโอกาสใหญ่ๆ หลายอย่าง ได้รับโอกาสเยอะซะจนยกตัวอย่างได้ไม่จบสิ้นเลยล่ะค่ะ ซึ่งในโอกาสเหล่านั้น การได้เป็นเซ็นเตอร์เพลง Seishun Da Capo คือสิ่งที่ยิ่งใหญ่สำหรับฉันค่ะ

ตั้งแต่เข้าวงมาได้ประมาณ 3 เดือนก็ติดเมมเบอร์เพลงรองมาตลอด ถึงจะได้รับเลือกมาโดยตลอดโดยไม่มีขาด แต่ตัวฉันเองก็รู้สึกเจ็บใจอย่างมากที่ขยับขึ้นไปไม่ได้มากกว่านี้ เพราะฉะนั้นดีใจจริงๆ ตอนที่ได้รับโอกาสเป็นเซ็นเตอร์และตอนแจ้งให้แฟนๆ รู้ โดยทุกคนก็ช่วยยินดีกัน รู้สึกอย่างยิ่งเลยค่ะว่า “ช่างดีจริงๆ ที่ผ่านมาจนถึงตรงนี้ได้”

แล้วก็รู้สึกเจ็บมากที่ไม่ติดเซ็มบัตสึเมมเบอร์ของทัวร์ทั่วประเทศในหน้าร้อน แต่อย่างน้อยก็ยังขึ้นแสดงกับเค้าบางวัน ปีที่แล้วตอนที่อายุ 19 ก็ดีใจมากที่ได้รับโอกาสในการทำกิจกรรมวงร่วมกับทุกคนในเซ็มบัตสึค่ะ

ถึงตลอดปีในช่วงอายุ 19 ปี จะดีใจที่ได้รับตำแหน่งเซ็นเตอร์ แต่กลับกันแล้วก็คิดว่าทั้งตัวฉันและแฟนๆ ทุกคนก็คงจะ “อยากเห็นครั้งถัดไป” ล่ะค่ะ

ฉันเองก็อยากไปต่อ อย่างเช่นอยากได้รับเลือกเป็นเซ็มบัตสึให้มากกว่านี้ จะบอกว่าอยากก้าวไปข้างหน้าก็ไม่เชิง เพราะเคยเป็นเซนเตอร์ก็มั่นใจว่าก้าวต่อไปได้แน่ๆ แต่เอาเข้าจริงดันก้าวไม่ออก เลยรู้สึกโมโหตัวเองอย่างมาก ทั้งๆ ที่เวลามีอะไร ทุกคนก็จะคาดหวังกันทุกครั้ง รู้สึกขอบคุณที่มีทุกคนคอยบอกว่า “รอโอกาสนามินอยู่นะ” ไม่ก็ “ยังไงนามินก็ต้องได้รับเลือก” อย่างยิ่ง แต่ก็รู้สึกเจ็บอย่างมากที่ตัวเองไม่สามารถตอบสนองความคาดหวังนั้นได้เลย

ก็คิดว่า “อ๊ะ ไม่ได้อีกแล้ว” ไม่ก็ “อ๊ะ ได้รับเลือกในเพลงรอง แต่กลับมาตำแหน่งเดิมๆ อีกแล้ว” ถึงจะอยู่ในจุดที่ควรจะมีความสุขพอแล้ว แต่ก็รู้สึกอยากเห็นทิวทัศน์ที่หลากหลายยิ่งกว่านี้กับทุกคน มันเป็นความรู้สึกที่ตีกันหลายๆ อย่างเลยค่ะ ก็เลยเป็น 1 ปีที่ถึงจะมีเรื่องที่ดีใจ แต่ก็อยากจะก้าวไปข้างหน้าให้ได้มากกว่านี้ค่ะ

พอไม่ได้เจอกับทุกคน อย่าง SHOWROOM ที่จนถึงตอนนี้ไม่ค่อยจะได้ไลฟ์เท่าไหร่ เลยถือโอกาสนี้ลองไลฟ์ให้เยอะๆ ไม่สิ ไม่ใช่ลอง แค่ต้องไลฟ์เยอะๆ แล้ว ซึ่งจุดเริ่มต้นมาจากความคิดที่ว่า จะไม่ชอบเอามากๆ ถ้าไม่ได้เจอกันแล้วทำให้ฉันหายไปจากความทรงจำของทุกคนค่ะ

คิดว่าพอไม่ได้เจอกัน พอไม่ได้เห็นกันที่สเตจแล้ว จะมีส่วนที่ความรู้สึกของทุกคนก็จะค่อยๆ ห่างเหินไปรึเปล่านะ

ฉันชอบทุกคนเอามากๆ พอคิดว่าถ้ากลายเป็นแบบนั้นจะเหงาน่าดู เลยเริ่มไลฟ์ค่ะ ซึ่งทุกคนก็มาดูกันตลอด 100 วันจริงๆ รู้สึกดีใจที่มีทั้งคนที่มาดูทุกวัน แล้วก็มีคนที่มาชอบกันจากตรงนี้ แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ไม่ได้พบเจอกันแบบนี้ ทุกคนก็ยังคอยเชียร์ฉันอยู่เสมอไม่ห่างหาย เต็มไปด้วยความรู้สึกขอบคุณต่อแฟนคลับนามินทุกคนที่คอยเชียร์กัน ทั้งคนที่มาที่นี่ในตอนนี้ และคนที่คอยดู On Demand อยู่ค่ะ


อยากให้ช่วงอายุ 20 ปีเป็นแบบไหน

ตั้งแต่เข้าอายุ 20 ผ่านมาแล้วราวๆ 4 เดือน ก็พอจะมีเวลาค่อยๆ ทบทวนว่าตัวเองอยากทำอะไรทีละนิดๆ ก็ทำให้รู้สึกท้อพอควรว่าตัวเองต้องทำอย่างไรต่อไป อย่างตอนอายุ 19 ก็มีอยู่ครั้งเดียวแหละค่ะที่รู้สึกว่า อ๊ะ อาจจะอยากเลิกขึ้นมาเหมือนกันค่ะ

รู้สึกว่าตัวเรามันใช้ไม่ได้เลย ไม่สามารถตอบสนองความคาดหวังของทุกคนได้ เลยมีช่วงที่เหมือนว่าจะถอดใจเอาตรงนั้น แต่ว่าพอเห็นทุกคนคอมเมนต์ให้กำลังใจกันในทุกวันเลยตั้งหลักได้ เพราะขืนตัวเองล้มเลิกเอาตรงนี้ก็จะทำให้ทุกคนเสียใจกันพอดี

แล้วหลังจากอายุ 20 ก็ได้เป็น MC ของไลฟ์ศิลปินอย่างงาน MUSIC GATE ทั้งได้รับโอกาสเล่นเครื่องดนตรี ทั้งได้รับโอกาสร้องเพลง จนรู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองอยากทำค่อยๆ ออกมาเป็นรูปเป็นร่างชัดเจนทีละนิด ฉะนั้นตลอด 1 ปีในช่วงอายุ 20 อยากจะดึงความเป็นตัวเองออกมา แล้วหวังว่าจะทำให้เป็น 1 ปีที่สามารถก้าวไปกับทุกคน ไปยังจุดที่ไม่สามารถก้าวไปถึงได้ในปีที่แล้วได้ค่ะ


ปิดท้ายสเตจ นามินพูดขอบคุณแฟนๆ รวมไปถึงทีมงานจัดงานวันเกิดที่ช่วยเตรียมตัวเพื่องานวันเกิดในวันนี้ ทั้งๆ ที่มีเวลาอันสั้นในการเตรียมการ  แล้วก็บอกว่าตัวเองไม่ถนัดพูดอะไรที่สมเป็นไอดอล อย่างเช่นคำว่า “รัก” เท่าไหร่ เลยไม่ได้พูดออกมา แต่ว่าถ้าไม่มีทุกคนตัวเองก็ไม่สามารถมายืนตรงนี้ได้ และเหตุผลที่ยังเป็นไอดอลต่อไปก็เพราะทุกคนเห็นตัวเองร้องเต้นแล้วมีรอยยิ้มให้ เพราะตามงานจับมือหรืองานพูดคุยก็คุยกันแล้วรู้สึกว่านามินสนุก และจะดีใจถ้าตัวเองได้กลายเป็นพลังขับเคลื่อนให้พยายามในวันพรุ่งนี้ได้