คาวาโมโตะ ซายะ (อายุ 21 ปี) ที่จะจบการศึกษาจาก AKB48 ในวันที่ 31 สิงหาคม หากพูดถึงคาวาโมโตะแล้วก็ต้องเรื่องความโดดเด่นที่ถูกเลือกจาก 5 ทีมในงานประชุมดราฟท์ครั้งที่ 1 ของ AKB48 Group เกิดและเติบโตในต่างจังหวัดอย่างฮอกไกโดที่มีจำนวนของวัวมากกว่าผู้คนเสียอีก จะมาคุยถึงความทรงจำตลอดเวลา 6 ปีครึ่งที่ทำกิจกรรมในวงไอดอลระดับประเทศมาตั้งแต่ชั้น ม.3 กัน


เริ่มคิดเรื่องจบการศึกษาตั้งแต่เมื่อไหร่?

ซายายะ : ตั้งแต่อายุ 20 ค่ะ ก่อนหน้านั้นก็ทำกิจกรรมวงอย่างสุดความสามารถแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง แต่พออายุ 20 ก็เริ่มคิดเรื่องวันข้างหน้าขึ้นมา ตอนนั้นเองคำว่า ‘จบการศึกษา’ ก็ผุดขึ้นมาในหัวค่ะ สุดท้ายก็ตัดสินใจจบการศึกษาเอาตอนครึ่งปีก่อนค่ะ

ได้ปรึกษาคนรอบตัวไหม?

ซายายะ : ปรึกษาเมเนเจอร์ แล้วก็โยโกยามะซัง รุ่นพี่ที่ปรึกษาได้ตลอดกระทั่งเรื่องกลุ้มเล็กๆ น้อยๆ ค่ะ  โยโกยามะซังบอกว่าไม่ต้องเลิกก็ยังมีทางเลือกแบบโน้นแบบนี้อยู่นะ แต่ว่าก็บอกอีกด้วยว่าถึงจะจบการศึกษาไปก็คอยเชียร์นะ

โยโกยามะซังได้เห็นการจบการศึกษามาหลายคนนี่นะ ที่ประกาศจบการศึกษาทางรายการถ่ายทอดสดทาง Sub-Channel บน YouTube ของ AKB48 Official เนี่ย มีที่มาที่ไปอย่างไร?

ซายายะ : ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ก็คุยว่าจะประกาศจบการศึกษาเมื่อไหร่ดี เดิมทีอยากจะประกาศต่อหน้าแฟนๆ ในการแสดงเธียเตอร์ แต่เพราะการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่โคโรน่า ทำให้ไม่สามารถจัดสเตจได้ เลยประกาศทางไลฟ์แทนค่ะ พอเป็นไลฟ์แล้วรู้สึกไม่สบายใจเพราะไม่เห็นปฏิกิริยาแฟนๆ ไม่รู้ว่าบรรยากาศออกมาเป็นยังไง แต่พอดูปฏิกิริยาทาง SNS ก็รู้สึกดีที่เสียงตอบรับในแง่บวกเช่น “จะคอยเชียร์จนถึงท้ายที่สุดนะ” มีเยอะค่ะ

ตอนประกาศรู้สึกอย่างไรบ้าง?

ซายายะ : เพราะเป็นไลฟ์จากที่บ้าน เลยห่วงว่าถ้าสัญญาณหายเอาจังหวะประกาศจะทำยังไงดี (หัวเราะ)

มีกังวลแบบนั้นด้วยสินะ! เอาล่ะ มาย้อนนึกถึงการทำกิจกรรมที่ผ่านมากันดีกว่า คาวาโมโตะซังเนี่ย เป็นแฟนคลับตัวยงของ AKB48 มาก่อนสินะ

ซายายะ : ตอนนี้เองก็มีแปะโปสเตอร์ในห้องนอนที่บ้านเกิดเต็มไปหมดค่ะ สมัย ม.ต้น ไปชมคอนเสิร์ต AKB48 ถึงซัปโปโรกับแม่ ยังจำความประทับใจตอนที่ได้ยืนบนเวทีเดียวกันหลังเข้าวง AKB48 ได้อยู่เลยค่ะ

สมัยแรกๆ ที่เข้าวงมีประเด็นว่า บ้านเกิดเต็มไปด้วยฟาร์มโคนม เลยมีวัวเยอะกว่าคนซะอีกด้วยนี่นะ

ซายายะ : ใช่ค่ะ นักเรียนทั้งโรงเรียนเองก็มีประมาณ 50 คน ซึ่งจำนวนเมมเบอร์ AKB48 เนี่ย มีเยอะกว่านั้นซะอีกค่ะ (หัวเราะ) เพราะงั้นตอนแรกเลยยังไม่ค่อยรู้สึกอะไรค่ะ

คาวาโมโตะซังเนี่ย แรงผลักดันหลังจากเดบิวต์เนี่ยสุดยอดเลยนะครับเนี่ย งานแข่งจังเก้นของ AKB48 Group ที่เข้าร่วมครั้งแรก (เดือนกันยายน 2014) จู่ๆ ก็ได้ที่ 3 เลย

ซายายะ : เล่นเอาตกใจเลยค่ะ แต่ที่ตกใจไปกว่านั้นคือการประกาศว่าติดเซ็มบัตสึของเพลงซิงเกิล Kibouteki Refrain ของ AKB48 ถึงจะดีใจแต่ว่าก็เต็มไปด้วยความกังวลว่าความสามารถยังไม่ถึงขั้น รู้สึกว่าไปอยู่ตรงนั้นจะดีรึเปล่านะ แต่ก็ได้บรรดารุ่นพี่คอยเกื้อหนุนกันเลยทำกิจกรรมมาได้ค่ะ

มีกิจกรรมอะไรที่ตราตรึงเป็นพิเศษไหม?

ซายายะ : การได้เข้าร่วม Tofu Pro-Wresting The REAL (เดือนกุมภาพันธ์ 2018) กับการแลกเปลี่ยนระยะสั้นที่จาการ์ต้าผ่านโครงการแลกเปลี่ยนกับวง JKT48 (เดือนกันยายน 2018) ค่ะ มวยปล้ำเป็นระบบสมัครใจค่ะ ถึงจะไม่เคยดูมาก่อนแต่ก็คิดว่าน่าสนุกดี แล้วหลังจากนั้นก็ไปชมการแข่งมวยปล้ำที่ Ryougoku Kokugikan กับทุกคน ก็รู้สึกว่าสุดยอด แล้วคิดว่าตัวเองจะทำแบบนั้นบ้างได้มั้ยนะ แล้วหลังจากนั้นทุกๆ วันก็เทรนนิ่งกับทุกคนเพื่อลงแข่ง ถึงจะไม่ใช่กิจกรรมชมรมแต่เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ลิ้มรสความเป็นวัยรุ่นได้ค่ะ

การแลกเปลี่ยนกับวง JKT48 เป็นยังไงบ้าง

ซายายะ : ได้เข้าร่วมทั้งการแสดงเธียเตอร์ ทั้งทัวร์ แล้วยังงานจับมือ ถึงจะเป็นระยะเวลา 1 เดือนแต่ก็เข้มข้นอย่างมากเลยค่ะ ภาษายากแต่ก็ได้ฮารุก้อนซัง (นากาคาวะ ฮารุกะ) แล้วก็เมมเบอร์ที่เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นคอยช่วยไว้ จนสามารถแนะนำตัวไม่ก็ทักทายอย่างง่ายๆ ได้ แล้วก็จำเนื้อเพลงภาษาอินโดนีเซียอย่างเอาเป็นเอาตายด้วยค่ะ จนถึงตอนนั้นไม่เคยคิดเรื่องต่อต่างประเทศมาก่อนในชีวิต แต่ก็ดีจริงๆ ที่ได้มีประสบการณ์ เมมเบอร์ JKT48 ทุกคนสดใสกันดี พลอยทำเอาฉันก็รู้สึกสดใสขึ้นมาได้เหมือนกันค่ะ

ใน 6 ปีครึ่งนี้ มีช่วงเวลาที่รู้สึกทุกข์ทรมานบ้างไหม?

ซายายะ : เมื่อ 4-5 ปีก่อนค่ะ ไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรเป็นพิเศษ แต่มีช่วงรู้สึกว่าเจ็บปวดเอามากๆ เครียดไม่หายจนไปพาลใส่พ่อแม่ พอมานึกทบทวนตอนนี้แล้วไม่อยากนึกถึงเลยค่ะ…

แล้วแก้ปัญหาอย่างไร?

ซายายะ : จำไม่ได้ค่อยได้เหมือนกันค่ะ แต่ว่าตอนนั้นเป็นคนที่คิดในแง่ลบไปซะทุกเรื่อง เลยว่าต้องเปลี่ยนความคิดใหม่แล้วมีชีวิตอย่างสดใส นับจากนั้นก็คิดว่าสามารถทำกิจกรรมวงได้อย่างร่าเริงขึ้นมาได้ค่ะ

ช่วงนี้อยู่ในตำแหน่งที่เป็นคนนำในทีมสินะ

ซายายะ : รู้สึกว่าตัวเองเป็นรุ่นน้องมาตลอด แต่พอย้ายมาทีม 4 รู้ตัวอีกทีเป็นฝั่งรุ่นพี่ซะแล้ว คิดว่าอยู่ในฐานะที่จะต้องทำให้ดีทั้ง Performance แล้วก็ MC ค่ะ ตระหนักได้ว่าจะสอนสิ่งที่ได้เรียนรู้จากรุ่นพี่ให้กับรุ่นน้องต่อไปค่ะ

หลังจากนี้จะทำอะไรเหรอ?

ซายายะ : จนถึงตอนนี้ทำแต่กิจกรรมภายในวง AKB48 เลยอยากจะลองออกไปข้างนอกแล้วทำหลายๆ สิ่งดู แต่ยังไม่มีสิ่งที่พูดได้เต็มปากว่าคือสิ่งนี้เลยค่ะ………

แล้วกลับฮอกไกโดล่ะ?

ซายายะ : ถูกถามมาเยอะเหมือนกัน แต่ยังอยู่โตเกียวค่ะ! มีสิ่งที่อยากท้าทายมากมาย เพราะงั้นหวังว่าจะได้ทำงานต่างๆ ให้เห็นกันอีกค่ะ

ปฏิกิริยาของเมมเบอร์เกี่ยวกับการจบการศึกษาล่ะ?

ซายายะ : บอก ทานิกุจิ เมกุจัง และ โคมิยามะ ฮารุกะจัง ที่สนิทกันล่วงหน้า ทางเมกุร้องไห้แล้วบอกว่า “เหงายิ่งกว่าที่คาดไว้ซะอีก” เมมเบอร์ JKT48 เองก็คอมเมนท์หากันว่า “สู้ๆ นะ” ไม่ก็ “เหงานะ” ล่ะ คิดว่าดีจริงๆ ที่ได้พวกพ้องมากมาย ที่ถ้าหากไม่ได้เข้า AKB48 ก็คงไม่ได้พบเจอกันค่ะ

เอาล่ะ สุดท้ายนี้ขอคอมเมนท์ถึงแฟนๆ ที่คอยเชียร์กันหน่อยได้ไหม?

ซายายะ : จนถึงตอนนี้ได้ทำกิจกรรมหลายอย่าง แล้วในช่วงเวลาต่างๆ เหล่านั้น ก็มีแฟนๆ มารู้จักตัวฉันจนมาเชียร์กัน… ถ้าไม่ได้เป็นไอดอล คงไม่ได้พบเจอแฟนๆ มากมายขนาดนี้แน่แท้ แล้วก็รู้สึกเต็มไปด้วยความรู้สึกขอบคุณที่ท่ามกลางเมมเบอร์มากมาย กลับเลือกเชียร์ตัวฉันค่ะ

ลองนึกทบทวนดู พบว่าตัวเองได้เป็นไอดอลในอุดมคติสำเร็จหรือเปล่า?

ซายายะ : สมัยเป็นแฟนคลับปลื้ม มาเอดะ อัตสึโกะซังกับพารุรุซัง (ชิมาซากิ ฮารุกะ) ซึ่งถ้าให้นำรุ่นพี่เหล่านี้มาเป็นอุดมคติคิดว่าเป็นไม่ได้อยู่แล้ว แต่คิดว่าถ้าได้เป็นไอดอลที่ทำให้แฟนๆ รู้สึกว่าดีจริงๆ ที่คอยเชียร์ได้ก็คงดีล่ะค่ะ

คิดว่าเป็นไอดอลแบบนั้นสำเร็จแล้วล่ะ สุดท้าย คิดว่าดีไหมที่ได้มาเป็นไอดอล?

ซายายะ : ดีจริงๆ ค่ะ! ได้ประสบการณ์มากมาย และหวังว่าสเตจจบการศึกษาปลายเดือนสิงหาคมนี้จะจบการศึกษาได้ด้วยรอยยิ้มค่ะ


Profile : คาวาโมโตะ ซายะ (川本紗矢)

ชื่อเล่น : ซายายะ
สังกัดทีม : ทีม 4
รุ่น : ดราฟท์รุ่นที่ 1
วันเกิด : 31 สิงหาคม 1998
บ้านเกิด : จังหวัดฮอกไกโด
กรุ๊ปเลือด : กรุ๊ปบี

Twitter : @sayaya_0388
Instagram : sayaya_38

 

ที่มา : ENTAME next (10/08/2020)