“ไม่สำคัญว่าฉันจะอยู่ตรงไหน ฉันก็จะผลิบานค่ะ”
เป็นคำพูดของ อิวาตาเตะ ซาโฮะ หรือซะโฮได้เคยพูดไว้

 

ในปี 2011 เด็กสาวจากคานางาวะ อายุ 17 ปี ผู้พลาดจากการออดิชันในรุ่น 11 มาออดิชันอีกครั้งในรุ่น 13 ถือว่าอายุเยอะพอสมควรกับการเริ่มต้นเส้นทางไอดอล นับจากวันแรกที่เข้ามาในฐานะรุ่น 13 จนถึงวันนี้ เป็นเวลาเกือบ 7 ปีแล้ว ผ่านมาทั้งเรื่องผิดหวังและสมหวัง เธอทำได้อย่างที่พูดเสมอ ไม่ว่าเธอจะอยู่ตำแหน่งไหน เธอก็จะสนุกกับการแสดงทุกครั้งไป และเมื่อไหร่ก็ตามที่กล้องจับไปหาเธอก็จะเห็นรอยยิ้มและความสดใสของเธอทุกครั้ง

 
 
แม้จะเต้นไม่เก่ง ร้องเพลงได้ไม่ดีมากนัก แต่จุดเด่นที่ชัดเจนของซะโฮคือ บุริกโกะ (แอ๊บแบ๊ว) กับแคชเฟรสที่พอเมมเบอร์หลายคนโดนให้ลองทำแล้วรู้สึกอาย อย่าง ยะโฮ ซะโฮ กับ “ฮา-ยา-อิ” หรือการหัวเราะที่มีเอกลักษณ์อย่าง อุฮุฮุ พร้อมกับท่าทางน่ารักๆ เมื่อมารวมกันก็กลายเป็นความบุริกโกะแบบฉบับของ อิวาตาเตะ ซาโฮะ (หากสังเกตดีๆ เวลาซะโฮจับไมโครโฟนจะเห็นนิ้วก้อยยื่นออกมา ยิ่งทำให้ดูแอ๊บมากเข้าไปอีก) ถึงแม้จะดูบุริกโกะ แต่จริงๆ แล้วเป็นคนค่อนข้างจริงจังมาก เคยถึงขนาดกดดันตัวเองเรื่องงานจนร้องไห้ออกมาก็หลายครั้ง (ถ้าอยากเห็นซะโฮในมุมแบบจริงจังไม่มีแอ๊บแบ๊วไปลองดูใน PRODUCE48 ครับ)
 
 
 
ด้วยความที่ว่าออดิชันเข้ามาอยู่ในยุคที่ AKB48 กำลังรุ่งมากๆ ทำให้เจ้าตัวไม่ค่อยได้รับการผลักดันมากนัก เวลาออกงานต่างๆ ถ้าไม่ใช่งานที่ต้องใช้เมมเบอร์จำนวนมาก เธอมักจะไม่ใช่ตัวเลือกแรกๆ ที่ถูกเลือกให้ไปแสดง แม้แต่สเตจพิเศษต่างๆ เอง ก็มีเพียงสเตจของ อิวาโมโตะ เทรุโอะ เท่านั้นที่ถูกเลือกให้มีส่วนร่วม แต่ถึงกระนั้นก็น่าแปลกที่เจ้าตัวได้มีโอกาสไปแสดงต่างประเทศอยู่หลายครั้ง เช่น นิวยอร์ค มาเก๊า เกาหลี และล่าสุดได้มาไทยแล้วครับ กับการมาในรายการ I Can See Your Voice Thailand (ตอนรู้ข่าวครั้งแรกช็อคมากครับ เพราะไม่นึกไม่ฝันว่าจะมาแถมมาแบบกะทันหัน จนตอนแรกไม่เชื่อจนต้องเช็คข่าวยืนยันอีกที คงต้องขอบคุณ PRODUCE48 ที่ทำให้เกิดกระแสในไทยทำให้เมมเบอร์ชุดที่มาเกือบทั้งหมดจะเป็นเมมเบอร์ที่เคยไปร่วมกับ PRODUCE48)
 

 
เรื่องงานนั้น ถ้ามีโอกาสยื่นเข้ามา เธอก็พร้อมที่จะคว้าไว้เสมอ เลยได้เห็นซะโฮทำงานหลากหลายแนวมาก อย่างเช่น งานพิธีกรภาคสนามรายการเกี่ยวกับรถยนต์ Car’Xs, งานละครเพลง Akage no An, งานจัดรายการวิทยุ Gocha Maze!, มวยปล้ำ WIP แม้แต่การได้เข้าร่วมในรายการ PRODUCE48 ที่ประเทศเกาหลี การทำงานหลายๆ อย่างที่มีคนเสนอมาให้ เจ้าตัวมองว่าเป็นการเพิ่มประสบการณ์ของตัวเอง ยิ่งในส่วนของมวยปล้ำ WIP กับ PRODUCE48 นั่นก็เป็นการฉีกคาแรกเตอร์ของเจ้าตัวเป็นอย่างมาก
 
 
 
ล่าสุดได้รับโอกาสแสดงละครเวที Majimuri Gakuen ในบทดราก้อนด้วย ครั้งนี้ก็ดูเหมือนจะฉีกคาแรคเตอร์ตัวเองอีกครั้ง เห็นภาพนิ่งแล้วดูเท่มากครับ (ใครได้ไปชมอย่าลืมมาเล่าให้ฟังด้วยนะครับ)
 
 
 
ตั้งแต่ถูกโปรโมตให้เลื่อนขั้นจากเคงคิวเซ (เด็กฝึกหัด) จนผ่านการชัฟเฟิลมาหลายครั้ง ซะโฮก็อยู่กับทีม 4 มาตลอด จนประกาศชัฟเฟิลครั้งล่าสุดเมื่อปี 2017 ในสเตจครบรอบ 12 ปีของ AKB48 เธอถูกย้ายไปอยู่ทีม B ซึ่งดูแล้วก็น่าจะเข้ากับบุคลิกของเจ้าตัวมากๆ และถือเป็นประสบการณ์ครั้งใหม่อีกครั้งของซะโฮที่จะได้เจอ (น่าแปลก ถึงภาพลักษณ์จะไอดอลจ๋าขนาดนั้นแต่เวลาที่ได้ไปอันเดอร์มักจะได้อันเดอร์ทีม K บ่อยครั้งที่สุด)
 

 

ในรุ่น 13 เท่าที่อยู่จนได้เลื่อนขั้นขึ้นทีม ซะโฮเปรียบเสมือนพี่สาวคนโต แต่เป็นพี่สาวที่ไม่ได้มีความน่าเกรงขามสักเท่าไหร่ มักจะโดนน้องๆ รุมแกล้งกันเสียมากกว่า เวลาขึ้นสเตจพร้อมกันทีไรมักจะเป็นเป้าหมายของเพื่อนร่วมรุ่นอยู่เสมอ ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมให้แกล้งอยู่บ่อยๆ

 
 

เรื่องเพื่อน 

ซะโฮสนิทกับโมกิจัง (โมกิ ชิโนบุ), อาเบะ มาเรีย, นัตซึน (โคจิมะ นัตสึกิ) แล้วก็โทมุ (มุโต้ โทมุ) [ทุกวันนี้ตัวแทบจะติดกันอยู่แล้วสำหรับโทมุซะโฮ] โมกิจังนั้นเป็นรุ่นเดียวกันที่เมื่อก่อนเคยตัวติดกันแจ ส่วนอาเบะมาเรียเป็นอีกคนที่ซะโฮดูจะสนิทมากๆ ตอนสเตจอำลาของ อาเบะ มาเรีย ระหว่างที่ซะโฮเขียนจดหมายไปก็ร้องไห้ไปด้วย นัตซึนกับโทมุ รวมถึงโจริ (นากะนิชิ จิโยริ) ซึ่งเกิดปีเดียวกันด้วยด้วย เพราะซะโฮมักจะพูดถึงก๊วนนี้ที่อายุเท่ากันอยู่บ่อยๆ ส่วนในรุ่น 13 เอง นอกจากโมกิจังที่รู้ๆ กันอยู่ว่าสนิทกับซะโฮที่สุด ดูเหมือนว่าซะโฮจะค่อนข้างสนิทกับอายากะ (โอคาดะ อายากะ) ด้วย โดยปกติเวลามีเม็มเบอร์จบการศึกษาซะโฮจะค่อนข้างเข้มแข็งไม่ค่อยมีน้ำตาให้เห็น แต่กับอายากะร้องไห้ออกมาตั้งแต่ช่วงต้นของสเตจจบการศึกษาของอายากะ ส่วนเม็มคนอื่นในรุ่นจะออกแนวสนุกสนานเฮฮาไปด้วยกันมากกว่า

กับรุ่นน้อง ไม่ค่อยแน่ใจว่าเธอสนิทกับใครเป็นพิเศษไหม เด็กหลายคนบอกว่าซะโฮเป็นคนใจดีมาก (ที่เคยเห็นด้วยตาตัวเองก็เห็นจะมีโคมิฮารุ (โคมิยามะ ฮารุกะ) ที่เข้ามาอ้อนซะโฮที่เลนจับมือ อารมณ์พี่สาวน้องสาวมากๆ) นอกจากนี้ยังมีฟุคุจัง (ฟุคุดะ อาคาริ) STU48 ที่เคยพูดใน SHOWROOM ไว้ว่า ทำอย่างไรถึงจะเป็นเหมือนซะโฮซังได้ ช่วงก่อนหน้านี้ก็ดูเหมือนจะถูกใจโอตะ ยูริ NMB48 เป็นพิเศษ เวลาเจอกันมักจะเข้าไปกอดเสมอ ส่วนทางฝั่ง NGT48 ก็ดูเหมือนจะสนใจ สึงุมิน (โองุมะ สึงุมิ)

ส่วนเพื่อนต่างวง นอกจาก นาคาดะ คานะ (โนกิซากะ รุ่น 1) เองที่เป็นเพื่อนร่วมชั้นและทุกวันนี้ก็ยังสนิทสนมกันอยู่ ก็ยังมีเพื่อนไอดอลวงอื่นๆ จากที่เคยร่วมงานกันในรายการวิทยุ Gocha maze! เห็นว่ามีจับกลุ่มกันไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์อยู่บ่อยๆ

 
 
 

เป้าหมายและอนาคต 

เจ้าตัวยังมีความสุขกับการเป็นไอดอลอยู่ และยังตั้งเป้าที่จะติดเซ็มบัตสึให้ได้ (เคยเขียนไว้ใน SNS ว่าอยากติดเซ็มบัตสึ อยากมีรูปบนปกซิงเกิล) ซึ่งที่พอจะมีความหวังบ้างก็ดูจะมีแค่การเลือกตั้งเท่านั้น แนวโน้มอันดับสูงขึ้นทุกปี แต่การไปให้ถึงเซ็มบัตสึก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย (ทั้งนี้ทั้งนั้นคงต้องฝากแฟน ช่วยสนับสนุนเธอไปให้ได้ดังหวัง)

ในสเตจวันเกิดของเจ้าตัวเมื่อปีก่อน ได้พูดไว้ประโยคหนึ่งว่า อยากจะเปล่งประกายให้มากขึ้นกว่านี้ และอยากช่วยยุยฮัง (โยโกยามะ ยุย) ในการพาวงกลับไปโตเกียวโดมอีกครั้ง

 

เกร็ดข้อมูลอื่นๆ 

ขึ้นชื่อว่าเป็นไอดอลที่ชื่นชอบการกินตั๊กแตนต้มซีอิ๊ว รวมทั้งกล้ากินของแปลกๆ ที่รายการ AKBINGO! ใช้เป็นบทลงโทษ ในขณะที่เมมเบอร์คนอื่นๆ พากันกลัวหน้าตาของอาหารเหล่านั้น ทาคามินะเคยลองตั๊กแตนต้มซีอิ๊วชิมดูก็บอกว่าอร่อย ส่วนอิวาตะ คาเรน ที่ตอนแรกกลัวไม่กล้ากินพอชิมแล้วก็บอกว่าอร่อยเช่นกัน

 นอกจากจะเรียนจบมหาวิทยาลัย สาขาภาษาฝรั่งเศสแล้ว ทุกวันนี้ก็ยังเรียนภาษาฝรั่งเศสอยู่อย่างต่อเนื่อง

 ภาษาอังกฤษก็พูดได้ สื่อสารกันรู้เรื่อง ล่าสุดซื้อหนังสือเกี่ยวกับไวยากรณ์ภาษาอังกฤษมาด้วย เพื่อเอาไว้สื่อสารกับแฟนต่างชาติให้เข้าใจได้มากขึ้น ส่วนการเป็นนักพยากรณ์อากาศดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะเลิกล้มไปแล้ว ตอนนี้มุ่งเป้าเรื่องภาษาที่ตนเองสนใจมากกว่า

 สีประจำตัวคือ ไตรคัลเลอร์ (แดง-ขาว-น้ำเงิน) ซึ่งเป็นสีสามสีของธงชาติฝรั่งเศส ประเทศที่เจ้าตัวชื่นชอบ

 ก่อนที่จะมาเป็นไอดอล ซะโฮเคยเป็นโอตะมาก่อน ก่อนเปิดตัวรุ่น 13 ไม่กี่วัน ยังไปงานจังเก้นปี 2011 ที่ ชิโนดะ มาริโกะ ได้แชมป์อยู่เลย

 ซะโฮชื่นชอบไอดอลยุคเก่ามาก (เจ้าตัวชอบมัตสึดะ เซย์โกะ) ในงานจังเก้นปี 2015-2016 ก็แต่งชุดแนวไอดอลในยุค 80s หรือในโปสเตอร์เลือกตั้งครั้งที่ 8 (2016) ก็ทำโปสเตอร์เป็นสไตล์ไอดอลยุคเก่าเช่นกัน แถมพอเจ้าตัวทำทรงผมแบบไอดอลยุคเก่าในสเตจ และคอนเสิร์ตของรุ่น 13 ก็ดูสวยเข้ากันมาก

 แฟนๆ ของซะโฮ จะมีชื่อเรียกว่า ซะโฮรินสึ (ซะโฮจะใช้เรียกคนที่สนใจในตัวเธอว่า Sahorinzu แต่เข้าใจว่าเป็นการออกเสียงในแบบภาษาญี่ปุ่น ถ้าเขียนแบบภาษาอังกฤษจะเป็น Sahorins)

 โอชิเมมของซะโฮ คือ โคจิมะ ฮารุนะ และ คุราโมจิ อาสึกะ

 หลายครั้งเธอมักจะไปขอคำปรึกษากับ อากิโมโต้ ซายากะ และก็ได้คำแนะนำดีๆ กลับมาเสมอ

 ซะโฮถูกยุยฮังเรียกว่าเป็น บุริกโกะ อันดับ 1 ของ AKB

 เคยไปเป็นพิธิกรรับเชิญของ WakuWaku Japan ตอนเที่ยวดิสนีย์แลนด์ (ช่อง 3 เคยเอามาออกอากาศด้วยครับ เมื่อวันที่ 18/03/60)

 
เรื่องที่เป็นที่จดจำของแฟนก็เรื่องพยายามไม่ให้คนคิดฆ่าตัวตาย เคยมีกรณีหนึ่งที่มีแฟนคลับมาโพสต์ใน G+ ของซะโฮว่าอยากฆ่าตัวตาย (ซึ่งเราไม่รู้ว่าทำไปเพื่อเรียกร้องความสนใจหรือเปล่า) แต่ซะโฮก็ไม่ปล่อยเฉยได้คอมเมนต์ตอบและพยายามชักจูงให้เลิกคิดฆ่าตัวตายอยู่ตลอด และยังคงพยายามติดตามด้วยความเป็นห่วง ถึงแม้ทางนั้นจะไม่ตอบกลับมา

 
 
 

(ส่วนเสริมพิเศษที่อยากให้อ่านกันครับ)

จดหมายจากแม่ของซะโฮ (9/10/14 สเตจฉลองวันเกิดซะโฮ) 

ยะโฮ ซะโฮ สุขสันต์วันเกิด

20 ปีผ่านมาแล้วนะตั้งแต่ซะโฮเกิด คิดว่ามันช่างฮา-ยา-อิ (เร็ว) จริงๆ!

วันนี้จะมาบอกความลับของซะโฮ

จริงๆ แล้วซะโฮต้องเกิดในปลายเดือนกันยา เป็นเพราะว่าซะโฮรักท้องของแม่มากรึไงนะ ซะโฮเลยไม่ยอมออกมาซักที ช่าง โอ-โซ-อิ (ช้าจริงๆ)!

ซะโฮคลอดออกมาในวันที่ 4 ตุลา ซึ่งช้าไปราวๆ 10 วัน ตอนนี้มาคิดดูแล้วซะโฮอยากจะเกิดในวัน ‘เทนชิโนะฮิ’* (วันของเทพธิดา) หรือเปล่านะ
(*เทนชิโนะฮิ หมายถึง ‘วันของเทพธิดา’ ซึ่งตรงกับวันที่ 4 ตุลา (วันเกิดซะโฮ) เดือน 10 อ่านได้ว่า Ten และ 4 ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียงว่า ‘shi’ จึงรวมกันเป็น ‘Tenshi’)

ตอนซะโฮเกิด ได้รับแจ้งว่าสูดน้ำคร่ำเข้าไป ซึ่งอาจจะทำให้ปอดบวมได้ ทั้งๆ ที่แรกเกิดเธอน้ำหนักถึง 3,546 กรัม แต่ซะโฮจำไม่ได้ล่ะสิว่าทำให้หม่าม้ากังวลขนาดไหนที่ต้องเห็นเธออยู่ในตู้อบ

[ซะโฮ: แน่นอน]

รอน้ำนมไม่ไหวเลยเผลอดื่มน้ำคร่ำลงไปเนี่ยตะกละจังเลย และนิ้วก้อยก็ยื่นออกมาตอนถือขวดนมก็ตั้งแต่นั้นเลยด้วย

[ซะโฮ: เป็นไปไม่ได้!]

และเมื่อหม่าม้ามีทารกอีกคน เธอเชื่อเอาเองว่าเธอจะมีน้องสาว พอมารู้ทีหลังว่าเป็นน้องชาย ฉันได้ยินจากคุณย่าของเธอว่าเธอช็อคจนร้องไห้ และไม่ยอมกินซูชิของโปรด ฉันรู้สึกว่าซะโฮเป็นเด็กที่มีความคิดแน่วแน่

แต่ตอนนี้เธอสองคนกลับสนิทกันมาก หลังเลิกเรียนก็นัดไปกินข้าวกันสองคน ไปคาราโอเกะด้วยกัน หรือติวหนังสือด้วยกัน

หม่าม้าเองรู้เรื่องที่เธอไปออดิชัน AKB จนถึงครั้งที่ 2 แต่ทั้งๆ ที่ฉันพูดออกไปว่า “มันเป็นไปไม่ได้แล้ว ยอมแพ้ซะ คิดถึงเรื่องเรียนต่อมหาวิทยาลัยได้แล้ว” กลับให้น้องชายถ่ายรูปให้แล้วไปออดิชันอีกเป็นครั้งที่ 3 ดังนั้นฉันจึงเชื่อมั่นว่าเธอไม่ได้เข้า AKB ด้วยความรู้สึกครึ่งๆ กลางๆ แต่ก็ยังมีเรื่องของอายุที่ทำให้คนเป็นพ่อแม่อย่างฉันกังวลว่ามันจะดีกับอนาคตของซะโฮจริงๆ หรือ

ถึงตอนนั้นฉันจะมีข้อตกลงว่าถึงเข้า AKB ได้ก็ต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยด้วย แต่การซ้อมติดๆ กันหลายวัน ไม่ว่าจะเป็นสเตจหรือคอนเสิร์ต มันก็เยอะกว่าที่คิดไว้ พอเห็นสภาพเธอในตอนนั้นไปโรงเรียนกวดวิชา รวมถึงอ่านหนังสือสอบจนดึก เธอก็ไม่เคยบ่นและพยายามจนสอบผ่านมาได้ตามที่สัญญากัน แม้ฉันจะบอกว่า “ไม่ต้องสอบเข้ามหาลัยแล้วก็ได้นะ” ออกไปสักกี่ครั้งก็ตาม

ก่อนสเตจวันเกิดอายุ 18 ซะโฮอยู่โต้รุ่งเพื่อทำรายงานให้เสร็จ แล้วไปเล่นสเตจทั้งสภาพนั้น หม่าม้ากังวลมากว่าจะล้มป่วย แต่ซะโฮกลับยืนอยู่บนเวทีดูเป็นไอดอลอย่างเต็มเปี่ยมด้วยสีหน้าที่มีความสุข แล้วน้ำตาของฉันไหลก็ไม่หยุด เมื่อรู้ว่าเส้นทางที่เธอเลือกนั้นไม่ผิด

รุ่น 13 เป็นรุ่นที่มี Kenkyuusei Selection (การคัดเคงคิวเซที่ไม่ผ่านออกจากวง) ทำให้เพื่อนร่วมรุ่นทั้ง 16 คน เหลือเพียง 10 คนเท่านั้น (ที่จริงแล้วรุ่น 13 จะต้องมี 11 คนแต่ มิตสึมุเนะ คาโอรุ ได้จบการศึกษาไปเสียก่อน ทำให้เหลือขึ้นทีมเพียงแค่ 10 คน) คิดว่านี่ทำให้เป็นสายสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งจากประสบการณ์ความเจ็บปวดต่างๆ ที่ผ่านมาด้วยกัน

ตอนที่เธอกลุ้มใจหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอายุ หรือตำแหน่งการยืน แต่เมื่อได้ยินคำพูดของโอชิมะ ยูโกะซังพูดว่า “ที่เยี่ยมที่สุดคือ อิวาตาเตะ ซะโฮจัง” ในคอนเสิร์ตเคงคิวเซที่บุโดกัน เธอกลับเปลี่ยนความรู้สึกนั้นได้เพราะมีคนคอยสังเกตเห็นทำให้เธอมีความมั่นใจขึ้นมา ยังจำที่เธอเคยพูดไว้ว่า “ไม่สำคัญว่าฉันจะอยู่ตรงไหน ฉันจะผลิบานค่ะ”

คิดว่าสักวัน เธอคงจะต้องจบการศึกษา หลังจากนั้นก็ยังอยากจะเห็นซะโฮที่ยังคงพยายามต่อไป และจากความตั้งใจของเธอที่จะเป็นดาราที่มีพูดคำฮิตของตัวเองให้ได้ ตอนนี้ก็ดูหลายๆ อย่าง ฟังหลายๆ สิ่ง และเรียนรู้ภาษาฝรั่งเศส เรื่องการพยากรณ์อากาศ หรืออื่นๆ ที่จะช่วยเพิ่มงานในอนาคตด้วยนะ

‘ความลับ’ ของซะโฮยังมีอีกมาก แต่จะกลายเป็น ‘ยาวจัง’ ไปซะแล้ว เลยจบแค่นี้ล่ะ(ฮา)

สุดท้ายนี้ ได้โปรดให้ฉันได้ใช้โอกาสนี้กล่าวขอบคุณทุกคนด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น สตาฟและผู้เกี่ยวข้อง แล้วก็ทุกๆ คนที่คอยเอาใจช่วยซะโฮ รวมถึงผู้จัดงานวันเกิดที่เป็นผู้เตรียมเซอร์ไพรส์หลายๆ อย่างให้สนุกกัน แม้ว่าในความเป็นจริงฉันอยากจะกล่าวขอบคุณทุกคนด้วยตัวเองทีละคนๆ ก็ตาม

ซะโฮเป็นลูกสาวที่ยังไม่เพียบพร้อมเท่าไหร่ ต่อจากนี้ขอความกรุณาช่วยแนะนำเธอต่อไปด้วยนะคะ ได้โปรดเฝ้าดู อิวาตาเตะ ซาโฮะต่อไปนะคะ

แล้วก็ช่วยเป็นซะโฮโอชิต่อไปด้วยน้า~ ฉันเองก็จะเป็นซะโฮโอชิที่ไม่ยอมแพ้ทุกคนเช่นกันค่ะ

ซะโฮจัง จงรู้สึกขอบคุณที่ได้พบปะผู้คนมากมาย ที่มีคนสนับสนุนเธอ และค่อยๆ เดินไปข้างหน้าตามเป้าหมายของเธอนะ

จากหม่าม๊าซะโฮ

 

คุยกันตอนท้าย 

ส่วนตัวไม่ได้ตามน้องมาตั้งแต่แรกๆ ตอนแรกที่ตามส่วนใหญ่จะสนใจเมมเบอร์ดังๆ เสียมากกว่า มาสะดุดตาตอนเห็นในรายการ AKBINGO ดูน่ารักดี ทั้งประจวบเหมาะที่ว่าปี 2015 น้องหลุดไม่ติดอันดับเลือกตั้งทั้งที่ปี 2014 ติดอันดับเป็นครั้งแรก ทำให้เราอยากเอาใจช่วยขึ้นมา ยิ่งพอตามไปเรื่อยเรารู้สึกว่าน้องไม่ได้มีแค่ด้านน่ารักๆ อย่างเดียว ด้านจริงจังของน้องก็มีแถมมีเยอะด้วย แต่ไม่ค่อยแสดงออกมาให้เห็น เลยคิดว่าอยากสนับสนุนอยากให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น และอยากให้กลับมาติดอันดับเลือกตั้งอีกครั้ง นั่นคือจุดเริ่มของการเป็นซะโฮโอชิครับ 
 

totto (Guest Author)