Yokoyama Yui (横山由依)
หากใครพอสังเกต เราจะมักไปตอบหรือแสดงความเห็นเกี่ยวกับสมาชิกของโอบะทีม4อยู่เรื่อย เพราะเราโอชิทีม 4 เก่านั่นเอง (รุ่น 9-12) และยุยเป็นรุ่น 9-11 เพียงคนเดียวที่ไม่ได้อยู่ทีม 4 รุ่น 12 ครึ่งหนึ่งก็ไม่ถูกโปรโมทเข้าทีม 4 เช่นกัน มีข่าวลือว่า พวกเธอถูกเก็บไว้เป็นเมมเบอร์ของทีม 8 ณ ตอนนั้น (ไม่เกี่ยวกับโปรเจกต์ของโตโยต้า) นั่นเพราะยุยในยุคแรกนั้น ถือเป็นเคงคิวเซย์อัจฉริยะ ที่รุ่นพี่ทุกคนต่างก็ชื่นชมและเอ็นดู และสุดท้ายหวยก็ไปออกที่ทีม K
ชีวิตใน AKB ของยุย
เริ่มจากไปออดิชั่น SKE รุ่น 2 แล้วไม่ผ่าน มาออดิชั่นรุ่น 9 แล้วหลังจากนั้น 1 ปี ก็เลื่อนเข้าทีม K เพราะมีที่ว่างพอดี แน่นอนว่าในบรรดาเด็กฝึกทั้งหมด ยุยเป็นตัวเลือกแรกๆ ของทุกทีม ตอนยังไม่เลื่อนขั้น ยุยมักจะไปอันเดอร์ตำแหน่งมาริโกะบ่อยๆ และทากามินะก็ถูกใจยุยมากๆ ส่วนยูโกะก็เอ็นดูยุยไม่แพ้กัน
ในที่สุดยุยก็ไปอยู่กับอากิโมโต้ทีมK ปีต่อมาก็รับบทนำในซีรีส์มาจิสึกะ 2 รวมถึงติดเลือกตั้งด้วย (อันดับ 19)
เกือบ 2 ปี ที่อยู่ในดินแดนทีม K จนยูโกะพูดเลยว่ายุยถือเป็นจิตวิญญาณของทีม K ได้แล้ว (จริงๆเป็นกันทุกคนแหละ) แล้วทากามินะก็ได้ยุยไปครอบครองสมใจ ตอนชัฟเฟิลที่โตเกียวโดม ซึ่งรวมถึงได้ไปควบที่แดนคันไซ ภูมิภาคบ้านเกิด กับ ทีม N ด้วย
หลังจากนั้นยุยก็ค่อยๆ เริ่มมีชีวิตชีวามากขึ้น จากก่อนหน้าที่มีบุคคลิกจริงจัง ไม่ค่อยกล้าพูดกล้าสนทนากับรุ่นพี่ และคนไม่สนิท เมื่อได้ร่วมก๊วนกับคณะตลกนัมบะ ยุยก็เริ่มมีมุกแป้ก เริ่มแสดงอารมณ์มากขึ้น ทั้งดีใจ เสียใจ รวมถึงอารมณ์โกรธด้วย (ตอนยกเลิกควบ)
ในปี 2013 มาริโกะซามะจบการศึกษา และแต่งตั้งให้ยุยเป็นกัปตันทีม A ต่อจากตน ยุยก็ปฏิบัติหน้าที่กัปตันได้ดีสมกับที่พี่เขาไว้วางใจ แล้วยุยก็มาเป็นกัปตันเต็มตัวตอนชัฟเฟิลใหญ่ กลับมาที่บ้านทีม K อีกครั้ง แถมใช้สเตจ RESET สเตจแรกที่ตัวเองขึ้นทีมด้วย แต่แค่ปีเดียวเท่านั้น ยุยก็ต้องกลับมาที่ทีม A อีกครั้ง ในฐานะกัปตันทีม A ทีมที่เป็นหน้าเป็นตาของวง และพ่วงด้วยตำแหน่ง โซกังโตคุคนต่อไป ตามที่ทากามินะฝากฝัง
ยุยคือคนที่รุ่นพี่ฝากฝัง
อย่างที่ได้กล่าวไปบางส่วน ว่ายุยเป็นที่เอ็นดูและคาดหวังของรุ่นพี่หลายคนมาก และยิ่งตอกย้ำความคาดหวังด้วยหน้าที่อันยิ่งใหญ่ที่ทากามินะส่งต่อให้ ยุยบอกว่าเธอไม่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้เลย ไม่ใช่ว่าถ่อมตัว แต่เป็นเพราะความไม่มั่นใจในตัวเอง ถึงแม้จะดูเหยาะแยะไปบ้าง แต่ความอ่อนโยนตรงนี้ ทำให้รุ่นพี่ทุกคนมั่นใจในตัวยุยจริงๆ
เคยเห็นยุยตั้งแต่เป็นเคงคิวเซย์ตอนถ่ายนอกสถานที่ในรายการ Ariyoshi AKB Kyowakoku จนตอนนี้ก็มาเป็นตัวแทนฉันในรายการบ้าง เธอเติบโตขึ้นในระดับที่กลายเป็นคนละคนเลยล่ะค่ะ – โคจิมะ ฮารุนะ
เธอสามารถจัดการสิ่งที่ฉันต้องการได้ ถ้าเป็นยุย ฉันเชื่อว่าเธอทำได้แน่นอน (หมายถึงดูแลทีม A) – ชิโนดะ มาริโกะ
ฉันชอบเธอตรงที่เป็นคนเอาใจใส่รุ่นน้องมากกว่าใคร แต่ก็เป็นคนจริงจังอย่างที่รุ่นพี่ก็ยอมด้วยเหมือนกัน เธอเป็นเด็กดีจริงๆนะ ฉันกำลังเฝ้ารอ AKB48 ที่ยุยเป็นคนสร้างอย่างใจจดใจจ่อเลย – มิเนกิชิ มินามิ
ภาพลักษณ์ ‘เด็กดี‘ ของยุยก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงไปหรอก แต่ตอนนี้ได้กลายเป็น ‘รุ่นพี่’ ที่สุดวิเศษไปแล้วล่ะ – มิยาซาวะ ซาเอะ
รุ่น 9 ถือเป็นแนวหน้าพอดีสำหรับการเปลี่ยนยุคสมัย ดังนั้นอยากให้เชื่อว่าตัวเองจะเป็นผู้นำรุ่นน้องก้าวไปข้างหน้า – โอชิมะ ยูโกะ
ยุยเป็นเพื่อนสนิทที่น่านับถือ
ฉันไม่ค่อยออกความเห็นเกี่ยวกับทีมมากเท่าไร แต่โยโกยามะมักถามฉันว่า “มาริยางิซังคิดยังไงบ้าง?” โยโกยามะเป็นพวกพูดอะไรชัดเจน ฉันยอมรับในสิ่งที่เธอพูดได้ค่ะ หากฉันมีเรื่องกลุ้มใจฉันจะบอกเธอคนแรกเลย บางทีต่อให้เค้าไม่ใช่กัปตัน แต่คนแรกที่ฉันจะปรึกษาด้วยก็คงเป็นโยโกยามะนี่แหละ –นากาโอะ มาริยะ (พูดตอนอยู่ทีมเดียวกัน)
ยุยที่เคยบอกฉันว่าจะแบกช่วยรับ NMB48 อีกครึ่งหนึ่ง ตั้งแต่นั้นฉันก็รู้สึกว่าเราเป็นกำลังใจให้กันและกันเสมอ – ยามาโมโต้ ซายากะ
ฉันเคยมีความคิดที่จะจบการศึกษา แต่หลังจากที่ได้ฟังคำพูดของโยโกยามะซังเมื่อวันครบรอบ 10 ปี ฉันก็รู้สึกอยากจะเดินตามแผ่นหลังของรุ่นพี่เธอ และอยากช่วยเธอสร้าง AKB ยุคใหม่ให้ได้ – อิริยามะ อันนะ
เธอคอยดูแลเอาใจใส่รุ่นน้องเป็นอย่างดี ไม่ว่าฉันมีเรื่องอะไรก็จะคอยปรึกษาเธอตลอด ไม่ว่าจะเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัวก็ตาม เพราะเธอออกความเห็นที่คิดอย่างตรงไปตรงมาก็เลยช่วยฉันได้เยอะ – คาวาเอย์ รินะ
ยุยคือแผ่นหลังที่น่าเดินตาม
ยุยอาจจะไม่รู้ตัวว่าเธอเป็นรุ่นพี่ที่รุ่นน้องเคารพขนาดไหน อาจจะเพราะความเป็นกันเอง เข้าถึงได้ทุกคน จนเหมือนเกินเลยไปในบางครั้ง แต่ในความใกล้ชิดนั้น รุ่นน้องต่างก็มีความนับถือเธออยู่เต็มเปี่ยม เพราะการเอาจริงอย่างอ่อนโยนนั่นแหละ คือจุดแข็งของเธอที่ต่างไปจากรุ่นพี่ที่แสนเข้มงวดคนอื่น
ฉันเคยเป็นเด็กมีปัญหาจนหลายคนเอือมระอา แต่เมื่อได้มาอยู่ทีมเดียวกัน โยโกยามะซังมองฉันด้วยสายตาของคนระดับเดียวกัน นับตั้งแต่นั้น ฉันก็เปลี่ยนไป สามารถเป็นตัวของตัวเองได้อย่างที่ไม่ทำให้คนอื่นลำบากใจเลย และฉันก็อยากจะเป็นกัปตันที่ดีได้อย่างโยโกยามะซังด้วยค่ะ – ทาโนะ ยูกะ (พูดถึงตอนอยู่ทีมเดียวกัน ทั้ง A และ K)
การที่โยโกยามะซังจริงจังกับทุกอย่างนั่นแหละค่ะที่ฉันคิดว่าเธอสุดยอดมาก ทักทายคนอื่นอย่างดี ทำความสะอาดก็เริ่มทำเป็นคนแรกสุด เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับรุ่นน้องอย่างพวกเราค่ะ –โอชิมะ เรียวกะ
พอได้อยู่ทีมเดียวกัน ก็เลยเข้าใจแล้วว่าทำไมรุ่นน้องถึงได้ชอบโยโกยามะซังกันเยอะ เพราะเธอจะคอยมองคนรอบตัว มีปฏิสัมพันธ์กับทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน – โคจิมะ มาโกะ
โยโกยามะซังเป็นโซกังโตคุที่ฉันเอื้อมถึง ทากามินะซังเป็นคนที่สุดยอดมาก แต่รู้สึกว่าไม่สามารถสนิทสนมได้ ในขณะที่ฉันสามารถเดินไปปรึกษาโยโกยามะซังได้ทุกเรื่องเลย ฉันอยากจะเป็นรุ่นพี่ที่ดีได้อย่างโยโกยามะซังค่ะ – โอคาดะ นานะ
โยโกยามะซังเผยนิสัยของตัวเองให้เห็นในหลายๆด้าน ฉันก็เลยเปิดเผยนิสัยของตัวเองให้เธอเห็นอย่างตรงไปตรงมาด้วยเหมือนกัน คิดว่าเป็นความสัมพันธ์ที่ดีมากเลยนะคะ แต่ในวันนี้ฉันก็มีรุ่นน้องเยอะขึ้นแล้ว ก็ต้องเอาจริงเอาจังได้อย่างโยโกยามะซัง คงไม่ได้เข้าไปอ้อนเหมือนแต่ก่อนแล้ว –ทากาฮาชิ จูริ
ยุยนี่มันยุยจริงๆ
คือสิ่งที่ซายาเน่ทวีตหลังจากดูสารคดียุยจบ คิดว่าน่าจะความหมายประมาณเดียวกับที่เราแปลนะคะ ยุยฮังนี่มันยุยฮังจริงๆ เด็กขี้แย คนที่ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง ณ วันนี้ได้ก้าวมาเป็นลีดเดอร์ของเมมเบอร์ 48 ทั้งหมด
6 เดือนกว่าสำหรับตำแหน่งโซกังโตคุ และความหนักหนาของหน้าที่ที่แบกไว้ ซึ่งถ้ารวมช่วงฝึกหัดด้วย ก็น่าจะนานกว่านั้นอีก จำไม่ได้แล้วว่ายุยสมัครเข้ามาเป็นไอดอลเพราะอะไร คุ้นๆว่าต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเองซักอย่างหรือเปล่า?? แต่ทุกวันนี้ยุยก็ยังคงเป็นยุยที่อ่อนโยนแต่เข้มแข็งขึ้น เป็นยุยที่หัวดื้อแต่ก็รับฟังรอบข้างมากขึ้น ไม่ถึงกับเปลี่ยน แค่โตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นก็เท่านั้นเอง ส่วนสไตล์การแต่งตัว… เชยยังไง ก็เชยอย่างนั้น ไม่เคยเปลี่ยน ซึ่งเป็นหนึ่งไม่กี่อย่างที่โซกังโตคุยุย เหมือนกันกับโซกังโตคุมินามิ…
1 ขี้แย | 2 แต่งตัวเชย | 3 ความรักที่มีต่อ 48
แต่สิ่งที่ไม่เหมือนกันเลยคือทากามินะเหมือนจุดศูนย์กลางของเมมเบอร์ ส่วนยุยคือเพื่อนของเมมเบอร์ ซึ่งถ้ามองกันแบบผิวเผินจะดูเหมือนยุยไม่มีศักยภาพของผู้นำเลยซักนิด คนนอกอาจจะมองว่ามีผู้นำแบบนี้ AKB ถึงคราวล่มสลายแน่นอน ก็เป็นเรื่องจริงที่ยุยดูไม่มั่นคงเอาเสียเลย ถ้าไม่ได้เพื่อนพ้องช่วยเหลือ ยุยจำเป็นต้องมีพวกพ้อง ถึงจะเป็นโซกังโตคุยุยที่สมบูรณ์แบบ ดังนั้นอย่าแปลกใจเลยที่ยุยเที่ยวไปอ้อนวอนขอร้องให้เมมเบอร์คนนั้นคนนี้อยู่ต่อ เพราะทุกคนล้วนจำเป็นต่อวง และต่อยุยจริงๆ
ทีม K มี มี่จัง รุ่นพี่ยุย และถ้ามี่จังไม่อยู่ ก็ต้องเป็นชิมาดะแน่นอน << ซึ่งก็เพื่อนยุย
ทีม B มี ยูริอะ << คนนี้เพื่อนใหม่ยุย แต่สนิทกันมากนะ
ทีม 4 มี จูริ << รุ่นน้องที่ยุยไว้ใจ (จูริกับยุย เล่นยูนิตเดียวกับทากามินะ ในสเตจครบรอบ 10 ปี ก็มองได้หลายอย่างเหมือนกัน แต่เรามโนว่าเป็น past+now+future Sokantoku)
เหมือนคิดมาแล้วว่าถ้าจะให้ยุยขึ้นเป็นแม่ทัพ ก็ต้องหัวหน้ากองเป็นเพื่อนยุย ยุยถึงจะทำงาน
เราไม่รู้ว่าสิ่งที่เราเล่ามายาวเหยียด (วกไปวนมาบ้าง) จะส่งผลให้คนอื่นเข้าใจยุยมากขึ้นแค่ไหน
และนี่ก็เป็นเพียงมุมมองของเรา ซึ่งถ้าให้โอชิยุยมาอธิบายน่าจะเข้าใจและเห็นภาพกันมากมากกว่านี้
ว่ายุยนั้นจำเป็นและเหมาะสมแค่ไหนต่อวง AKB48 และหน้าที่ที่สำคัญนี้
ขอบคุณที่อ่านมากันจนถึงตรงนี้นะคะ
จากใจคนไม่ใช่โอชิ (จริงๆ นะ)
original post: กระทู้แด่โยโกยามะโซกังโตคุ「มุมมองที่มีต่อยุยฮัง จากใจคนไม่ใช่โอชิ」
Leave a Reply