ในรายการ Downtown DX ที่ออกอากาศไปเมื่อวันที่ 31 พ.ค. มิเนกิชิ มินามิ (25) บ่นไว้ว่า “ตัวฉันเองไม่มีความจำเป็นสำหรับ AKB อีกต่อไปแล้ว…” ไม่ใช่อย่างนั้นซักหน่อย! หนังสือพิมพ์ AKB48 มีโอกาสได้พูดคุยกับโคจิมะ มาโกะ (21) ผู้ที่ทั้งพึ่งพามี่จังและอยากให้มี่จังอยู่ตลอดไป  ทั้งสองคนมาคุยกับเราทันทีหลังจบโชนิจิ (สเตจแรก) ทีม K ใหม่


 

 

―ในการเลือกตั้ง AKB48 ครั้งนี้ ทั้งสองคนก็ติดอันดับ Undergirls สินะครับ

 มิเนกิชิ  มีแฟนๆ บอกว่า “ขนาดผลด่วนไม่ติดอันดับยังได้ขนาดนี้ ดีจังเนอะ” ไม่ก็ “อันดับตกลงมานะ” ล่ะค่ะ แต่ว่านะ ฉันเอง ถึงจะตกลงไปขนาดอันดับ 50 หรือ 60 ก็คงช่วยอะไรไม่ได้ ผ่านมาถึงสิบครั้งแล้วแต่ก็ยังได้อันดับ 32 มา ก็คิดว่าโกงตายได้สิน้า… ยังมีคนที่ยังสนใจเราอยู่สินะ รู้สึกขอบคุณมากค่ะ

 

―ยังดังค้างฟ้าสินะครับ

 มิเนกิชิ  ไม่หรอก จริงๆ แล้วในฐานะรุ่นที่ 1 รู้สึกว่าน่าอายด้วยซ้ำค่ะ

 โคจิมะ  เอ๋ ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก ได้ออกรายการทีวีเดี่ยวๆ ตั้งเยอะ จำนวนคนที่รู้จักมี่จังเนี่ย พวกเรารุ่นน้องไม่มีใครสู้ได้หรอกค่ะ

 มิเนกิชิ  จะไปเป็นเหมือนซัชชี่ก็ไม่ได้แล้ว ฉันเองไม่เหลืออะไรแล้วล่ะ แต่ว่านะ ตอนเลือกตั้งปี 2013 เนี่ย ถึงอันดับฉันจะตกฮวบลงไปก็คงไม่มีใครแปลกใจหรอก แต่ว่าแฟนๆ กลับพยายามให้ฉัน (คะแนนเพิ่มจากปีก่อนมากกว่าหนึ่งหมื่นโหวต) จนได้ที่ 18 มา ตรงนั้นต้องขอบคุณแฟนๆ ทุกท่านมากเลยค่ะ

 

―ก่อนเลือกตั้งปีนี้ จัด SHOWROOM จริงจังมากๆ เลยนะครับ

 มิเนกิชิ  รุ่นที่ 1 มาจากรุ่นที่ยังไม่ค่อยใช้ SNS กันเท่าไร ก็เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยอยากเล่าอยู่หรอก แต่ถึงฉันเองไม่ใช่ซูเปอร์เซนบัตสึ  แต่ก็ยังมีความรู้สึกแบบสตาร์ของเอเคบียุคก่อนอยู่ล่ะมั้ง เวลาที่รู้สึกว่า “การที่ต้องมาใช้ SR กับโมบาเมะจริงๆ จังๆ แบบเด็กรุ่นใหม่ๆ นี่เจ็บปวดจังนะ” ก็มีอยู่แน่นอนล่ะค่ะ แต่ยิ่งกว่านั้นคือการได้ตอบแทนแฟนๆ ทุกท่าน พอได้เห็นผลลัพธ์จากเมมเด็กๆ แล้ว ก็รู้สึกว่าได้รู้อะไรใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาล่ะค่ะ

 โคจิมะ  ฉันเองก็สนุกดีกับ SR ค่ะ  ส่วนเรื่องอันดับ 19 นั้น แฟนๆ ก็บอกว่า “ยังไงก็มีกำแพงเซนบัตสึอยู่ตรงนี้จริงๆ สินะ” มาช่วยเจ็บใจแทนฉันล่ะค่ะ แต่ฉันก็ตอบไปจากใจจริงว่า “ไม่หรอกๆ ได้ตั้งที่ 19 เลยนะ ทุกๆคนสุดยอดไปเลย ขอบคุณมากๆ เลย~” ค่ะ ก็นะ ปีที่ผ่านมานี้ ฉันเองไม่ได้มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน ไม่ได้มีภาพดีๆ ให้ได้เห็นเลยนี่นา

 มิเนกิชิ  มาโกะเนี่ย ตั้งแต่ยังเป็นเคงคิวเซ (เด็กฝึกหัด) ก็โดนจับตามองมาโดยตลอด ช่วงนี้ก็มีเรื่องที่เข้าเซนบัตสึไม่ได้สักที ปีที่แล้วคะแนนลดลงเสียด้วยซ้ำ  แต่มาโกะก็ไม่ปล่อยเวลาช่วยนั้นให้เปล่าประโยชน์ จากทั้งไอจีทั้งเรื่องแฟชั่น ได้แฟนๆ ผู้หญิงใหม่ๆ มาเยอะเลยนี่ เซลฟ์โปรดิวซ์เก่งมากเลยล่ะ

 โคจิมะ  มีแฟนๆ เพิ่มมาจากบล็อกกับไอจีจริงๆ ค่ะ ทั้งๆ ที่เพิ่งมาเริ่มใช้จริงจังเอาเมื่อหน้าหนาวปีที่แล้วนี่เอง แต่ตอนนี้ในงานจับมือก็มีคนที่รวบรวมความกล้าฝ่ามาจับมือฉันด้วยล่ะค่ะ แบบ “เห็นจาก PRESS Blog เลยมาหาค่ะ ไม่รู้จักสักเพลงเลย แต่ชอบเสื้อผ้าแนวๆ เดียวกันล่ะค่ะ งานจับมือมันแบบนี้นี่เองสินะ (เหงื่อตก)” (หัวเราะ) คิดว่าการเริ่มอะไรใหม่ๆ เป็นเรื่องสำคัญนะ ถึงจะทำแต่สิ่งที่ตัวเองชอบ แต่สุดท้ายเรื่องพวกนี้ก็กลับไปช่วย AKB ทีละนิดมีละหน่อยได้ก็ดีมากเลยค่ะ

 มิเนกิชิ  มาโกะถึงจะเป็นรุ่นน้อง แต่สำหรับชั้นแล้วกลายเป็นคนที่ฉันใฝ่ฝันไปแล้วล่ะค่ะ

 โคจิมะ  เอ๋!?!

 มิเนกิชิ  ถึงจะเจอกันบ่อยๆ ในเวลาส่วนตัว แต่ว่าเธอเป็นตัวของตัวเองมากๆ เลยล่ะ  ไม่ว่าใครจะพูดยังไงก็ไม่เปลี่ยนความคิด มีความดื้อในแบบดีๆ  สไตล์การทำงานก็วางรากฐานไว้หมดแล้ว ไม่มีอะไรต้องกลัวเลย  ทำเรื่องที่ตัวเองอยากทำ อยู่ในกลุ่มผู้คนที่ชอบได้ก็ดี จะมั่นคงในความคิดมากค่ะ ถึงจะเหมือนเป็นการยกตัวอย่างแบบหนังสือพิมพ์ แต่มาโกะเนี่ย อารมณ์ยูโกะเลยล่ะค่ะ!

 โคจิมะ  เอ๋? (หัวเราะ)

 มิเนกิชิ  ตอนยูโกะยังอยู่ก็รู้สึกแบบ “ทำไมคนคนนี้ไม่มีอะไรที่กลัวเลยหรือไงนะ” แล้วก็คิดว่าตัวเองชาตินี้ก็คงเป็นคนที่มีความสุขกับชีวิตทุกเรื่องแบบยูโกะหรือมาโกะไม่ได้หรอกค่ะ เลยเป็นแบบใฝ่ฝันล่ะค่ะ

 โคจิมะ  (ยิ้มๆ)

 

―โคจิมาโกะซังได้ลงหนังสือพิมพ์ AKB ครั้งแรกเมื่อสี่ปีครึ่งก่อนหน้านี้ มี ยูโกะ มี่จัง โคจิมาโกะ รวมสามคน เนื่องในโอกาสที่ติดเซนบัตสึครั้งแรกใน Mae Shika Mukanee ครับ ไม่คิดว่าชื่อยูโกะจะโผล่กลับมาอีกทีแบบนี้

 มิเนกิชิ  ตอนนี้น่ะ มาโกะเปลี่ยนเรื่องแฟชั่นที่ชอบเป็นงานได้แล้ว ทั้งยังแข่งอยู่ใน PRODUCE48 ด้วย  ตอนคอนเสิร์ตเดือนเมษา คนรู้จักของฉันชี้ไปที่มาโกะแล้วก็บอกว่า “เด็กคนนั้นน่ารักจัง” ด้วยล่ะ  ยังมีชื่อหลุดออกมาในที่แบบนั้นเนี่ย สุดยอดนะ  คุณสมบัติต่างๆ ก็มีครบแล้ว ถ้าไปได้ดีสักทางนอกเอเคบี ก็คงดังได้สุดยอดเลย  อิจฉาจากใจจริงเลยค่ะ ในอนาคตอาจจะกลายเป็นเหมือนทาคาฮาชิ ไอจังได้เลยนะ การแสดงก็ทำได้ดี มีแรงสนับสนุนจากผู้หญิง น่าจะได้ลงสกูปพิเศษแบบ “โคจิมะมาโกะอย่างไม่ต้องพยายาม” ที่ลงเรื่องไลฟ์สไตล์กับเสื้อผ้าต่างๆ แบบไม่เมคในนิตยสารผู้หญิงได้สบายๆ  รู้สึกต่างจากช่วยดาวน์ๆ ปีที่แล้วเลย (หัวเราะ)

 โคจิมะ  ไม่เอาน่า ปีที่แล้วช่วงประมาณฤดูใบไม้ร่วงนี่พีคสุดเลย (ยิ้มเขิน) ไม่ใช่ความของใครหรอกนะคะแต่ว่ามีความคิดแบบ “ไม่มีเหตุผลที่จะต้องอยู่ในกรุ๊ปนี้อีกต่อไปแล้ว” ถึงขั้นคิดเรื่องจบการศึกษาเลยค่ะ กังวลจนทำตัวไม่เหมือนเดิมเลย

 มิเนกิชิ  ฉันกับชิมาดะ (ฮารุกะ) ที่จบการศึกษาไปแล้วยังแบบ “แย่แล้ว มาโกะเปลี่ยนไป” จนรวมกันไปพยายามให้กำลังใจ แต่โดนกลับมาว่าแบบ “ก็บอกว่าพอได้แล้วไง” ฉันเองก็ต้องลำบากพยายามโน้มน้าวล่ะค่ะ (หัวเราะ)

 โคจิมะ  มี่จังเนี่ย เป็นห่วงแทนจริงๆ ค่ะ!

 มิเนกิชิ  จนถึงขนาดเล่าเรื่องลำบากของฉันในอดีตที่ไม่เคยบอกใครมาก่อนเลยล่ะ สุดท้ายพวกเราสองคนก็ร้องไห้กันเอง จนพูดว่า “มาพยายามกันนะ” ล่ะค่ะ (หัวเราะ)

 

―ทำยังไงถึงออกมาจากจุดต่ำสุดได้เหรอครับ?

 โคจิมะ  ไม่ได้มีจุดเปลี่ยนอะไรสำคัญหรอกค่ะ ก็แค่ฟังเรื่องของมี่จังไปเรื่อยๆ แล้วก็รู้สึกดีขึ้นเอง ปล่อยให้เวลาพาไปหาทางออกน่ะค่ะ

 มิเนกิชิ  มาโกะเนี่ย เหมือนเอา (โคจิมะ) ฮารุนะกับยูโกะมาบวกกันแล้วหารสองน่ะค่ะ มาโกะมีทั้งความสบายๆ ของยูโกะ กับความรู้สึกว่าเล่นไปวันๆ ทั้งๆ ที่จริงๆ คิดอะไรหลายๆ อย่างอยู่เหมือนฮารุนะเลยค่ะ ฉันเองเนี่ย ได้ทั้งสองคนช่วยดูแลหลายอย่าง ตอนนี้ถึงจะดูเหมือนแนะนำมาโกะจังอยู่ แต่ฉันเองก็ได้รับคำแนะนำและความช่วยเหลือมาเหมือนกันค่ะ

 

―รุ่น 14 ช่วยรุ่น 1 นี่สุดยอดเลยนะครับ

 โคจิมะ  แหะๆ

 มิเนกิชิ  พออายุเท่านี้แล้ว ได้นาจัง (โอคาดะ นานะ) กับมาโกะนี่แหละคอยดูแลสภาพจิตใจให้ ยังไงไม่รู้แต่ก็เป็นงั้นล่ะค่ะ (หัวเราะ) ช่วยได้มากกว่าที่คาดไว้ในอดีตเยอะเลย  พอเลี้ยงลูกให้ความรักไป ลูกก็จะตอบแทนสินะคะ (ยิ้มกว้าง)

 

―เอาล่ะ พูดถึงโชนิจิสเตจทีม K ใหม่ที่จบไปอย่างงดงาม

 มิเนกิชิ  ฉันอยู่อากิโมโตะทีม K ครั้งแรก พอมองย้อนกลับไปก็คิดว่า จริงๆ ตอนนั้นก็เต้นไม่ได้เก่งกันขนาดนี้ แต่ว่าตอนนั้นมีสายสัมพันธ์ เป็นทีมที่มีทั้งอารมณ์และพลังในการแสดงค่ะ  ทีม K ใหม่ตอนนี้แสดงได้โหดกว่าจริงๆ ค่ะ

 โคจิมะ  เห?

 มิเนกิชิ  แต่ว่าเอาตามจริง ไม่ค่อยสนิทกันแล้วก็ไม่ค่อยมีสายสัมพันธ์กันเลยล่ะค่ะ (ชัดเจน) โลกยุคปัจจุบันเจริญก้าวหน้า ทั้งสะดวกทั้งสวยงาม แต่ก็ไม่มีความดิบความอบอุ่น  ทั้งเมมควบทีม 8 เมมเด็กคนอื่นๆ กับเมมที่อายุมากกว่านี่แบ่งเป็นคนละกลุ่มเลย  แล้วแต่ละฝ่ายก็ไม่คิดจะสุงสิงกับคนอื่น บรรยากาศหลังซ้อมเนี่ย ไม่มีความรู้สึกอยากจะคุยกันเท่าไรเลยล่ะค่ะ (ยิ้มแห้ง) ก็คิดว่า ถ้าเป็นอย่างนี้ไม่รอดแน่ ตอนก่อนซ้อมใหญ่ของสเตจโชนิจิ พอล้อมวง ก็เลยพูดออกไปว่า “ตอนนี้น่ะ สนิทกันไว้เป็นเรื่องดี พวกเราทุกคนในฐานะโปรเนี่ย ทำให้ทีมดูดีไว้ไม่ดีเหรอ? เพราะฉะนั้น อย่างแรกเลยคือเรื่องการแสดง มาพยายามทำให้ออกมาดีด้วยกันทุกคนเถอะ” ค่ะ

 โคจิมะ  พูดจริงด้วย! แล้วทุกคนก็พยักหน้า (หัวเราะ)

 มิเนกิชิ  “แน่นอนว่าจะสนิทกันก็ต้องใช้เวลา แต่ว่าระหว่างนั้น พอคิดว่าจะมีวิธีไหนที่ทำให้พวกเราไปในทิศทางเดียวกันได้บ้าง ก็คิดว่า เป้าหมายในการแสดงของดีๆ ให้ผู้ชมได้เห็นควรเป็นเป้าหมายลำดับหนึ่ง พวกเรามามุ่งหน้าไปทางเดียวกันเถอะ” พูดไปอย่างนี้ค่ะ สุดท้ายก็รวบรวมเอาแนวทางอื่นๆ นอกจากความสนิทมาใช้ แล้วก็ “เอาล่ะ ไปกันอย่างนี้แหละ” ค่ะ ในฐานะผู้ใหญ่หนึ่งคน และในฐานะผู้แสดง รู้สึกเหมือนเรารวบรวมอารมณ์ของทุกคนไว้ได้แล้ว เลยสบายใจค่ะ เด็กๆ ทุกคนต้องเข้าใจอยู่แล้วล่ะนะ

 โคจิมะ  อื้ม

 มิเนกิชิ  สายสัมพันธ์ต่างๆ ไว้สร้างกันทีหลังได้แน่ๆ คิดว่าจนถึงเซนชูราคุ (สเตจสุดท้าย) จะกลายเป็นทีมที่เยี่ยมยอดได้แน่นอนค่ะ มาตรการฉุกเฉินของโชนิจิ ก็ตามนี้ล่ะค่ะ

 

―พวกเราเองก็คิดว่าแสดงได้ดีกว่าที่คาดไว้อีกครับ

 มิเนกิชิ  พวกเราทุกคนมีความภาคภูมิใจในการแสดงอยู่แล้ว พอรวมกับจุดเดือดก็กลายเป็นพลังระเบิดออกมางั้นล่ะค่ะ

 โคจิมะ  อย่างแรกเลย ก็ต้องทำสิ่งที่ต้องทำล่ะค่ะ ถึงจะเป็นกลุ่มโปรได้

 

―โคจิมาโกะซังเคยแสดงมาก่อนแล้ว คิดว่าโชนิจิครั้งนี้มีพัฒนาการอะไรบ้างมั้ยครับ

 โคจิมะ  เอ… ก่อนเข้า AKB ไม่เคยมีประสบการณ์อะไรเลยล่ะค่ะ เพราะฉะนั้นเวลามีคนชมว่าเต้นเก่งก็จะดีใจมากๆ เลย  จริงๆ แล้ว ครั้งนี้ได้เป็นดับเบิ้ลเซนเตอร์กับนารุจัง (คุราโนะ นารุมิ) ได้ศึกษาอะไรใหม่ๆ มาเยอะมากเลยค่ะ (ยิ้มเล็กๆ)

 มิเนกิชิ  เป็นเรื่องที่ดีเนอะ มาโกะคิดยังไงกับนารุมิเหรอ ฉันเองก็อยากรู้

 โคจิมะ  นารุมิ~ อย่างแรกเลยคือกลัวค่ะ ถึงจะเด็กกว่าตั้งเยอะก็ตาม (หัวเราะ)

 มิเนกิชิ  เข้าใจเลยล่ะ (หน้าจริงจัง)

 

―เรื่องนั้น เพราะเป็นพวกพยายามคนเดียวมากเกินตัวสินะครับ

 โคจิมะ  การแสดงของเธอเต็มไปด้วยพลังค่ะ ถึงจะเป็นกลุ่มที่เน้นเรื่องการแสดงอย่างทีม K ก็ตาม เธอก็ยังแสดงพลังออกมาได้แรงกล้ามาก แล้วก็ไม่ใช่เรื่องของฉันที่จะไปบอกว่า “ไม่จำเป็นต้องแบกทีมไว้คนเดียวก็ได้นะ” เพราะนั่นคือสไตล์ของนารุจังล่ะค่ะ เพราะงั้น ฉันเองที่อยู่ข้างๆ ก็ไม่อยากคิดว่า ต้องแสดงพลังให้เท่าๆ กันไม่งั้นจะแพ้ ไม่ชอบความคิดอย่างั้นค่ะ ก็เลยกลายเป็นได้เรียนรู้ล่ะค่ะ (หัวเราะ)

 มิเนกิชิ  กับมาโกะเนี่ย ฉันเองเคยอยู่ด้วยกันตอนทีม 4 แล้วก็คิดว่านารุจังน่ากลัวเหมือนกัน ถ้าคิดง่ายๆ ฉันก็จะอยู่ฝั่งมาโกะ แต่ว่านะ พอสองคนนี้มายืนเรียงกัน แล้วถามว่า ใครดีกว่ากัน ก็แบบ “เอ๋ เรื่องนี้น่ะ ทำไงดี ไม่เห็นจะน่าสนใจตรงไหนเลย~” (ยิ้มอย่างมีเลศนัย)

 

―เพราะคุราโนะซังต้องการปิดกั้นตัวตนที่อ่อนแอไว้ เลยพูดอะไรเข็มแข็งๆ ออกมา เป็นเรื่องจริงสินะครับ

 มิเนกิชิ  เรื่องนั้น ฉันเองก็รู้สึกได้ตอนโชนิจินะ จู่ๆ ก็พูดว่า “ทุกๆ คนแสดงได้สุดยอดมากเลย” แล้วก็ร้องไห้ “อ๊ะ ได้รู้สึกถึงความสุดยอดของเมมเบอร์ที่ไม่ใช่ทีม 8 ด้วย” ค่ะ แต่ว่านะ นารุจังน่ะเป็นคนที่คอยดึงคอยกระตุ้นคนอื่นๆ ยังไงล่ะ “นี่เป็นรูปแบบของทีมที่ดีไม่ใช่เหรอ” ประมาณนี้ค่ะ

 โคจิมะ  ใช่เลย

 มิเนกิชิ  เอ๊ะ แต่ไม่ใช่ว่าเป็นคนไม่ดีอะไรหรอกนะ เหมือนแบบเวลาที่ศัตรูกลายเป็นเพื่อนในมังงะไรพวกนี้ล่ะค่ะ

 โคจิมะ  ตัวอย่างเป๊ะเลย (หัวเราะร่วน)

 มิเนกิชิ  เข้าใจกันถึงขั้นจะชมกันได้ทั้งสองฝ่ายได้แล้ว ดีใจมากเลยค่ะ

 

―เป็นเรื่องที่ดีนะครับ

 มิเนกิชิ  เหมือนกันที่มาโกะเปลี่ยนไปโดยนารุจัง คิดว่านารุจังก็ต้องสัมผัสได้ถึงความสุดยอดของมาโกะได้แน่นอนค่ะ ปฏิกิริยาเคมีน่าจะเริ่มขึ้นแล้วล่ะค่ะ

 โคจิมะ  นารุจัง สุดยอดเลย! นารุจังสุดยอดจริงๆ นะ

 มิเนกิชิ  เป็นตัวตนที่ทรงพลังค่ะ ฉันเองเห็นตอนซ้อมก็เห็นด้วยเลยว่าแบบ  “อ๊ะ รู้เลยว่าทำไมเด็กคนนี้ถึงดัง” ตอนซ้อมก็เต็มที่ตลอดเวลา ทำให้คิดว่าแบบ “จะต้องรีบตามให้ทันแล้ว” ล่ะค่ะ

 

―เป็นพัฒนาการที่ดู K ดีนะครับ (หัวเราะ)

 มิเนกิชิ  ใช่เลยค่ะ พอทำอย่างนี้ สุดท้ายก็จะละลายน้ำแข็งได้ นทุกคนมาร้องไห้ด้วยกันค่ะ (ยิ้มกว้าง) ตอนโชนิจิจะไม่ยอมแพ้กันเลยแม้แต่นิดเดียว แต่เดี๋ยวก็อ่อนกันเอง เป็นนิสัยสัยของทีม K ล่ะค่ะ และนั่นก็เป็นงานต่อไปค่ะ (ยิ้มแห้งๆ)

 โคจิมะ  แต่ว่าไม่เป็นไรหรอกคะ มีฉันอยู่ทั้งคน จะพยายามค่ะ (ยิ้ม)

 มิเนกิชิ  พึ่งพาได้เนอะ “มาโกะนารุ” เป็นคนนำนี่นา ถ้าทั้งสองคนไม่หมดแรงไปก่อน คนอื่นๆ ยังไงก็ต้องตามไปล่ะนะ

 โคจิมะ  ฟู่ー ต้องพยายามล่ะ แต่ว่าจะพยายามอย่างมีความสุขเพราะงั้นไม่ต้องห่วง เวทีวิเศษไปเลย สเตจวิเศษไปเลย!

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ AKB48 Group ฉบับเดือนกรกฎาคม 2018