คอนเสิร์ตเดี่ยวของ ยามาอุจิ มิซึกิ (ซุกกี้) สมาชิก AKB48 Team 4 ผู้ที่ได้รับตำแหน่งเซ็นเตอร์คนล่าสุดของ AKB48 จากซิงเกิลที่ 57 จัดขึ้นที่ Tokyo Dome City Hall วันที่ 26 มกราคม 2020 ด้วยไตเติ้ลที่ชื่อว่า ~“MY” Revolution~ ซึ่ง MY นั้นย่อมาจาก Mizuki Yamauchi ได้อีกด้วย โดยคอนเซ็ปท์ของคอนเสิร์ตครั้งนี้คือซุกกี้นั้นปิดบังเรื่องเป็นผู้ใช้เวทมนตร์ฝึกหัด แล้วสมัครเข้ามาเป็นเมมเบอร์ AKB48 จากการที่อาจารย์ของซุกกี้ ‘มาสเตอร์ออฟผู้ใช้เวท’ (แสดงโดย ทากุจิ มานากะ) ส่งมาให้มาฝึกฝนบนโลกมนุษย์

เพลงแรกของ Setlist คือ Synchro Tokimeki อีกทั้งยังร่ายมนตร์ที่ชวนให้หลงรักซุกกี้ยิ่งขึ้นด้วยเพลง Sore demo Suki da yo และยังมีช่วงตบมุกกันระหว่างซุกกี้และมาสเตอร์ออฟผู้ใช้เวท ช่วงฉาย VTR เป็นแบบสอบถามรุ่น 16 เกี่ยวกับซุกกี้ ไม่ว่าจะเป็นชอบซุกกี้ตรงไหน หรือจุดที่อยากให้ซุกกี้ปรับปรุง จากนั้นมาสเตอร์ออฟผู้ใช้เวทก็บอกให้แสดงความเอาจริงให้เห็นด้วยการเล่นเพลงแดนซ์อย่างสุดกำลัง ซึ่งหนึ่งในนั้นมีเพลง Migiashi Evidence ที่ซุกกี้เล่นโซโล่ยูนิตสมัยสเตจเคงคิวเซ

ซุกกี้กล่าวว่า “ปี 2020 อยากจะเป็นคนที่สามารถซัพพอร์ต AKB48 ได้ อยากจะปฏิวัติทั้งตัวเองและ AKB48” พร้อมกับร้องเพลง My Revolution ของ วาตานาเบะ มิซาโกะ กลางคอนเสิร์ต ช่วงอังกอร์รุ่น 16 ก็มาร่วมร้องเพลงด้วย แน่นอนว่าที่ขาดไม่ได้คือเพลง Dakitsukouka? เป็นเพลงของรุ่น 16 ที่ซุกกี้เป็นเซ็นเตอร์คู่กับ อาซาอิ นานามิ (นามิน) ซึ่งเล่นแบบเต็มเพลงด้วย

ตอนท้ายคอนเสิร์ต ซุกกี้ใช้เวลา 2 วันเขียนจดหมายเพื่อถ่ายทอดคำขอบคุณแฟนๆ ดังนี้

จดหมายจากซุกกี้ถึงแฟนๆ (ฉบับเต็ม)

ถึงแฟนๆ ทุกคน

ขอเริ่มจากขอบคุณทุกคนที่ถึงแม้จะยุ่งกัน ก็ยังใช้เวลาอันแสนสำคัญเพื่อมาชมโซโล่คอนเสิร์ต “MY” Revolution ของฉัน ทั้งที่ดูผ่าน Shintaikan Live ด้วยนะคะ  เต็มไปด้วยความรู้สึกขอบคุณสตาฟหลายท่าน เมมเบอร์ และแฟนๆ ที่คอยส่งเสริมกันถึงได้มายืนที่เวที TDC แสนวิเศษแห่งนี้ได้ค่ะ

 

ฉันชอบการร้อง การเต้น และทำให้ผู้คนมากมายมีรอยยิ้มมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ ค่ะ สมัยอนุบาล ถ้าถูกถามว่า “อนาคตอยากเป็นอะไร” จะตอบไปว่า “อยากเป็นไอดอลค่ะ” เสมอๆ แต่ตอนนั้นไม่ใช่ว่าอยากจะเป็นไอดอลจริงจังอะไรขนาดนั้น แต่เพราะไม่รู้จักอาชีพอื่นเลย รู้แค่ว่า ร้อง, เต้น = ไอดอล ก็เลยตอบแบบนั้นไปเฉยๆ ค่ะ

หลังจากเข้าชั้นประถมก็ได้พบกับมิวสิคัล และทำกิจกรรมมิวสิคัลอย่างเอาจริงเอาจังค่ะ การได้เข้าถึงบทบาทและตอนที่ยืนบนเวทีนั้นสนุกมากๆ จนคิดตลอดเลยว่าฉันจะเดินทางต่อไปในเส้นทางมิวสิคัลนี้เลยค่ะ

หลังจากขึ้นชั้น ม.3 ทางไปต่อก็แคบลง เป็นช่วงที่ไม่ได้เป็นทั้งนักแสดงเด็ก แล้วก็ยังไม่ใช่นักแสดงผู้ใหญ่ ก็เริ่มกังวลถึงอนาคตขึ้นมาอย่างมาก ในตอนนั้นเองก็ได้เจอกับการออดิชั่นรุ่น 16 ของ AKB48 ค่ะ พ่อแม่เป็นคนแนะนำให้ ตอนแรกก็คิดหนักว่าจะลงสมัครดีมั้ย แต่คิดว่าอยากจะทำให้ผู้คนมีรอยยิ้มผ่านการร้องเพลงและการเต้นมากยิ่งขึ้น และอยากเปิดโลกให้ตัวเอง ก็เลยตัดสินใจที่จะลองดูค่ะ

 

หลังจากผ่านเข้ามา ช่วงแรกก็หนักใจเพราะไม่รู้วิธีการร้องเพลงหรือวิธีเต้นให้สมเป็นไอดอลเลยสักนิดเดียว แถมตำแหน่งก็อยู่ท้ายๆ ก็เลยจิตตกไม่น้อย แต่ว่าแฟนๆ ที่สังเกตเห็นตัวฉันและสนับสนุนกันอย่างเต็มกำลังก็มีเพิ่มขึ้น รู้สึกตัวอีกทีก็มีแฟนๆ ที่อยากจะดูการแสดงของฉัน จนมาดูโซโล่คอนเสิร์ตกันขนาดนี้ค่ะ

ไม่ว่าจะเมื่อไหร่หรือจะยามไหน ฉันก็ได้รับความร่าเริงจากการมีอยู่ของทุกคนในทุกๆ วันค่ะ ทั้งที่จริงฉันเองอยู่ในฐานะที่ต้องส่งมอบรอยยิ้มให้กับทุกคนแท้ๆ “ขอบคุณที่คอยสนับสนุนกันเสมอนะ!” รู้สึกขอบคุณขนาดที่ถ่ายทอดความรู้สึกขอบคุณออกมาเป็นคำพูดได้ไม่หมดเลยค่ะ

 

เป้าหมายว่า “อยากเป็นคนที่ขาดไม่ได้ใน AKB48” “อยากเป็นคนที่เหมาะสมที่จะได้รับมอบหมายตำแหน่งเซ็นเตอร์ของ AKB48” ที่จริงแล้วเป็นสิ่งที่คิดอยู่ในใจตลอดอย่างน้อยวันละ 1 ครั้งตั้งแต่เข้า AKB48 มาเลย

แล้วก็จากการประกาศในงาน Request Hour 2020 เมื่อวันก่อน ฉันได้รับเลือกให้เป็นเซ็นเตอร์ของซิงเกิลที่ 57 ของ AKB48 สิ่งแรกสุดที่แวบขึ้นมาในหัวก็คือ แฟนๆ ทุกคนและครอบครัวค่ะ เพราะมีการสนับสนุนของทุกคนตลอดเวลาที่ผ่านมา ถึงมีฉันในตอนนี้ค่ะ ครั้งนี้เองก็เป็นเพราะทุกคนเนี่ยแหละค่ะ

 

แต่ว่าการเป็นเซ็นเตอร์ยังไม่ใช่ปลายทางที่แท้จริงของฉัน ต่อจากนี้จะพยายามอย่างเต็มความสามารถ เพื่อขัดเกลาตัวเองต่อไป จนสามารถเป็นเมมเบอร์ที่เหมาะสมกับตำแหน่งเซ็นเตอร์ค่ะ แล้วก็อยากที่จะสร้างรอยยิ้มให้กับผู้คนทั้งในญี่ปุ่นและทั่วโลกผ่านการแสดงของฉัน อยากที่จะสามารถถ่ายทอดเสน่ห์ของ AKB48 ในตอนนี้ให้กับผู้คนมากยิ่งขึ้นไปอีกค่ะ

และเวลาที่ทำได้สำเร็จนั่นแหละค่ะ คือ “MY”Revolution ‘การปฏิวัติของ มิซึกิ ยามาอุจิ’ ที่แท้จริง เพราะฉะนั้นช่วยอยู่ข้างกันจากนี้ต่อไปด้วยนะคะ

 

พอคิดถึงทุกคน ถ้าหากอยู่กับทุกคนแล้ว รู้สึกว่าต่อให้จะเป็นภูเขาที่สูงแค่ไหนก็สามารถก้าวข้ามไปได้ค่ะ! ถึงจะยังมีส่วนที่ยังไม่มีความมั่นใจในตัวเองอยู่ก็ตาม แต่ความรู้สึกชอบ AKB48 ความรู้สึกที่อยากทำให้สนุกยิ่งขึ้นไปอีกนั้นแรงกล้าค่ะ เพราะฉะนั้นอยากจะมุ่งตรงไปข้างหน้าต่อไป เพราะงั้นทุกคนเองก็มาทำให้ AKB48 สนุกไปด้วยกันกับฉันเถอะค่ะ!

ต่อจากนี้ขอฝากสนับสนุน ยามาอุจิ มิซึกิ, รุ่นที่ 16 และ AKB48 กันต่อด้วยนะคะ

Setlist Yamauchi Mizuki Solo Concert

Kage-Ana
ยามาอุจิ มิซึกิ
M01
Synchro Tokimeki
M02
Hatsukoi Door
M03
Hissatsu Teleport
M04
Sore Demo Suki da yo
MC1
ทากุจิ มานากะ ปรากฏตัวแค่เสียง
M05
Densetsu no Sakana
M06
Kaiyuugyo no Capacity
M07
ALIVE
M08
Kimi wa Melody
M09
LOVE Shugyou
MC2
ซุกกี้, มานากะ ประกาศผลแบบสอบถามที่ไปถามรุ่น 16 มา
M10
ช่วง Solo Dance
M11
Make noise
M12
Migiashi Evidence
M13
Tenmetsu Pheromone
MC3
ซุกกี้, มานากะ
M14
Watashi wa Watashi
VTR
M15
My Revolution — (Original: Watanabe Misato)
M16
Monica, Yoake da
M17
Hashire! Penguin
M18
First Rabbit
M19
Reborn
MC3
M20
Neko Allergie
Encore
EN1
Koisuru Ribbon
EN2
Lucky Zukkii — (เพลง Lucky Seven)
EN3
Oogoe Diamond — ท่อนฮุคสุดท้าย รุ่น 16 มาร่วมร้องเพลงด้วย
MC4
EN4
Dakitsukouka? — รุ่น 16
MC5
จดหมายจากซุกกี้ถึงแฟนๆ
EN5
Boku wa Ganbaru
Shime-Ana
ยามาอุจิ มิซึกิ

 

ที่มา : 1, 2